(11 ต.ค. 67) เวลา 19.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย (มท.1) เป็นประธานเปิดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 50 ประจำปี 2567 (50th King’s Cup 2024) ณ สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา โดยมี น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยารองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นางนวลพรรณ ล่ำซำ (มาดามแป้ง) นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันฯ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา แฟนบอล ผู้บริหาร โค้ช นักฟุตบอล และสื่อมวลชน ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก
นายอนุทิน กล่าวว่า กีฬาฟุตบอลไทยมีพัฒนาการมาเป็นลำดับและผ่านความท้าทายที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน คือ “คนไทยรักฟุตบอล” และฟุตบอลก็เป็นกีฬาที่หลอมรวมคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกวัฒนธรรมเข้าด้วยกันได้อย่างกว้างขวางและเป็นสากลมากที่สุด จึงสมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับการส่งเสริมและเฉลิมฉลองในทุกโอกาส โดยเฉพาะการแข่งขันที่เป็นความภูมิใจของคนไทยทั่วประเทศ เช่น การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ในวันนี้ ซึ่งต้องขอขอบคุณและขอชื่นชมจังหวัดสงขลา ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่สามารถดำเนินการจัดการแข่งขันให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้กำหนดไว้
“ผมได้เห็นความพยายามเป็นอันมากของคุณสุพิศ พิทักษ์ธรรม ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันฯ เพราะท่านมีความตั้งใจ มีความแน่วแน่ที่จะทำให้การแข่งขันฟุตบอลครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดสงขลาให้ได้ และท่านก็ทำจนประสบความสำเร็จ จึงขอชื่นชมในความสำเร็จของความมุ่งมั่นตั้งใจอันดีงามของท่าน และในฐานะตัวแทนรัฐบาลและตัวแทนพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ต้องขอขอบคุณคุณนวลพรรณ ล่ำซำ (มาดามแป้ง) นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะกรรมการสมาคมฯ ทุกท่าน ที่ได้พิจารณาและตัดสินใจให้จังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งนี้” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ยังส่งผลดีต่อการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียน ในจังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้เยาวชนในพื้นที่ภาคใต้ได้ร่วมรับชมการแข่งขันและสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันฟุตบอลในระดับชาติ ซึ่งจะสร้างทั้งความเพลิดเพลินและแรงบันดาลใจให้แก่ลูกหลาน เยาวชนไทยของเรา เป็นการสร้างคนให้มีคุณภาพ มีน้ำใจนักกีฬา ส่งเสริมให้เกิดความสามัคคี ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา อันจะนำมาซึ่งการอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข และมีสันติสุข พร้อมแซวแฟนบอลชาวสงขลา “ขอให้พี่น้องชาวสงขลาเชียร์ให้หรอยครับ”
ทางด้านนางนวลพรรณ กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” เป็นรายการที่สำคัญมากของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพราะเป็นการแข่วขันชิงถ้วยรางวัลที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ให้กับวงการฟุตบอลไทยตั้งแต่ปี 2517 จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ยังเป็นการจัดการแข่งขันในปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา อีกด้วย
นายสุพิศ กล่าวว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบหมายให้จังหวัดสงขลาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ในวันที่ 11 และ 14 ตุลาคม 2567 โดยมีชาติเข้าร่วมการแข่งขัน 4 ประเทศ คือ ทีมชาติไทย (เจ้าภาพ) ทีมชาติซีเรีย ทีมชาติทาจิกิสถาน และทีมชาติฟิลิปปินส์
ในพิธีเปิดการแข่งขันฯ ครั้งนี้ นายอนุทิน ได้ให้เกียรติมอบโล่เกียรติยศให้กับผู้ฝึกสอนและอดีตนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยซึ่งเป็นชาวจังหวัดสงขลา รวม 15 ท่าน ได้แก่ 1. ผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลสร้างนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติ 1 ท่าน คือ นายวิริย์ เตชะโต 2. อดีตนักกีฬาทีมชาติไทย 14 ท่าน คือ 1. นายพินิจ พงศ์ไทย 2. นายวิเชฏฐ์ คงมาก 3. คุณสมพงษ์ วัฒนา 4. ร.อ.บุญพบ ประพฤติ ร.น. 5. นายวินิจ สุวรรณนัง 6. คุณสิริศักดิ์ ขะเดหรี 7. นายธงชัย อัครพงศ์ 8. นายวรวุธ ศรีมะฆะ 9. พ.ต.อ.ธวัชชัย นคราวงศ์ 10. พ.อ.อดลุย์ มะลิพันธุ์ 11. นายเทเวศน์ จันทร์หอม 12. นายสัมฤทธิ์ เสริมสุข 13. นายพงศ์ธร เทียบทอง 14. นายยุทธนา ไชยแก้ว พร้อมทั้งมอบรางวัลให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ผู้ชนะการประกวดมาสคอตการแข่งขันคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 จำนวน 3 รางวัล คือ รางวัลชนะเลิศ มาสคอต : นกกรงหัวจก (น้องจุกหลา) ออกแบบโดยนายศิราภัทร เนสะแหละ และนางสาวชนาพร วาสุเทพ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 มาสคอต : โลมาอิรวดี ออกแบบโดย นายนาเสด บินลาเต๊ะ และรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 มาสคอต : ไข่ครอบ ออกแบบโดยนายเขมชาติ ฆังคะดร และนายพุทธวงศ์ กะการตี
ทั้งนี้ ในระหว่างการแข่งขันฯ ช่วงนาทีที่ 25 ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก จนทำให้แฟนบอลและนักกีฬาต้องหยุดพักชั่วคราว ก่อนจะกลับมาแข่งขันได้ในเวลา 21.25 น. โดยผลการแข่งขันเป็นทีมชาติไทยเอาชนะฟิลิปปินส์ไป 3-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับทีมชาติซีเรีย
กองสารนิเทศ สป.มท.
