ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดูแลช่วยเหลือราคาสินค้าปัจจุบันที่มีราคาสูงขึ้นว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการดูแลช่วยเหลือประชาชนผ่านมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น รวมทั้งจะมีการพิจารณาหามาตรการที่เหมาะสม ในการช่วยเหลือไม่ให้ราคาต้นทุนสูงจนเกินไปและส่งผลต่อราคาขายที่จะสูงขึ้น โดยดำเนินการภายใต้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยหยุดนิ่งที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องของแรงงาน ค่าแรง ตลอดจนราคาพลังงานต่าง ๆ โดยให้นโยบายและแนวทางกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกกระทรวงไปแล้วเพื่อหามาตรการที่เหมาะสมเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในการดูแลช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุดสอดคล้องงบประมาณที่มีอยู่โดยคำนึงต้องไม่สร้างภาระในวันข้างหน้า สิ่งสำคัญขณะนี้คือทำอย่างไรให้ประชาชนดำรงชีวิตอยู่รอดและปลอดภัยจากโควิด-19 และใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียงตามศักยภาพของแต่ละบุคคล
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการปรับราคาสินค้าให้เหมาะสมเป็นไปตามมาตรการบังคับของกระทรวงพาณิชย์ ย้ำการปรับราคาสินค้าต้องสอดคล้องกับภาวะเงินเฟ้อและต้นทุนการผลิตด้วย
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ต้องมีการปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกและบริบทต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยนำสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมาเป็นบทเรียน เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งทางภูมิศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้มีการวางแผนในการดำเนินการด้านนโยบายเพื่อพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกินขึ้นในอนาคตด้วย
“นโยบายรัฐบาล วันหน้าต้องมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเหมือนกัน จากสถานการณ์ในวันนี้เป็นบทเรียนให้เราทราบว่า โลกมันเปลี่ยนทุกอย่าง ทั้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านลมฟ้าอากาศ สิ่งแวดล้อมมันเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด”
“เพราะฉะนั้นวันนี้เป็นแนวทางที่รัฐบาลนายกรัฐมนตรี ต้องเตรียมการว่าเราจะดำเนินนโยบายของเราอย่างไรต่อไป ถ้ายังมีโอกาสได้อยู่ ได้ทำ เพราะเอาปัญหา ทุกปัญหามาประมวลแล้ว”
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุด้วยว่า โลกมันเปลี่ยนเราก็ต้องปรับ นโยบายรัฐบาล นโยบายด้านการเมืองต้องเปลี่ยนหมด ถ้าเราอยู่อย่างนี้มันไปไม่ได้หลอก หลาย ๆ อย่างที่มันจะโต กำลังจะโต มันก็ต้องล้ม มันก็ต้องพัง อะไรลงมา บางทีมันก็มาจากคามไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน
“เพราะฉะนั้นจะขอร้องกันว่า การเมืองก็เบา ๆ กันอย่างแล้วกัน นะ ไม่งั้นมันก็ทำให้เกิดไม่เชื่อมั่น ไม่น่าเชื่อถือกัน แล้วมันจะแก้กันอย่างไร เพราะการแก้ปัญหามันต้องแก้ด้วยวิธีทาง เขาเรียกอะไรล่ะ ความร่วมมือ ถ้าขัดแย้งกันตั้งแต่ต้น คุยกันไม่รู้เรื่องมันไปกันไม่ได้ จะแก้อะไรได้ แล้วใครได้รับผลกระทบ รัฐบาลน่ะแน่นอนอยู่แล้ว แต่คนที่ได้รับผลกระทบคือคนของท่านนั่นแหละ ที่อยู่ในเซ็คเตอร์ของท่านแหละ วันหน้านโยบายภาครัฐต้องปรับหลายอย่าง ก็พยายามปรับมาตลอด แต่มันเดินได้ช้า เพราะความขัดแย้งมันสูง การจะเปลี่ยนอะไรสักอย่าง สำหรับประเทศไทยค่อนข้างยาก มันต้องทำอย่างระมัดระวัง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
“ธรรมนัส”ดันนายกฯนอกบัญชี”ดับวิกฤต ตามรธน.มาตรา 272
ที่ทำการพรรคเศรษฐกิจไทย วันที่ 29 เมษายน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวถึงเรื่องนายกรัฐมนตรีสำรองว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้มองไปถึงจุดนั้น เพราะมองไปแค่จุดเดียวคือเรื่องการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ก็ตาม เราต้องเตรียมพรรคให้พร้อม ส่วนเรื่องนายกฯสำรอง ตนไม่ทราบ
เมื่อถามถึงกรณีมีบางคนเสนอชื่อให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นนายกฯ จะเป็นได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อยู่ที่ตัวพล.อ.ประวิตร หากถามว่าสามารถเป็นนายกฯได้หรือไม่ ความจริงท่านก็เป็นได้ตลอดเวลา แต่ทุกอย่างอยู่ที่ตัวท่าน
เมื่อถามย้ำว่า นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ระบุว่าให้ พล.อ.ประวิตร มาเป็นนายกฯ เพื่อแก้วิกฤติ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า นายอดุลย์ คงมีความคิดที่อยากให้บ้านเมืองเกิดความสมานฉันท์และเดินหน้าแก้ไขปัญหาในทุกๆเรื่อง ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี
เมื่อถามว่าถึงกรณีที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเกิดอุบัติเหตุการเมืองในสภาฯ มองเรื่องบัญชีนายกฯ อย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในความคิดเห็นของตน คงใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรค 2 สำหรับบุคคลที่จะเข้ามาแก้ไขในสถานการณ์นี้ได้ เมื่อถามย้ำว่านายกฯคนนอกคิดว่าใครมีความเหมาะสม ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ยังไม่ทราบ
เมื่อถามอีกว่า พล.อ.ประวิตร จะเข้ามากุมบังเหียนรัฐบาลได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราไม่สามารถไประบุได้ ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ เมื่อถามถึงกรณีที่เสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรค2 หมายความว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ได้ รับการสนับสนุนในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรายังไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัตติในเรื่องใด ตนคิดว่าไวเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ และยังไม่รู้ว่าฝ่ายค้านจะยื่นเมื่อไหร่
” ตอนนี้ต้องพูดว่า มือที่มองไม่เห็นมันเยอะ สภาฯยังไม่เปิดก็ยังไม่รู้ และเดี๋ยวสภาฯเปิดก็จะรู้ เพราะตอนนี้ทุกคนต่างซ่อนมีดไว้ข้างหลังตัวเองหมด จึงยังไม่รู้อะไรเป็นอะไร” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
“วิชญ์” เชียร์ “ประวิตร” นั่ง “นายกฯ คนนอก” หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง
พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณอยุธยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย เสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรคสอง ให้มีนายกฯคนนอก หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองว่า น่าจะเป็นไปได้ หากทุกอย่าง นำไปสู่การแก้ไขปัญหาก็อาจจะเป็นไปได้
เมื่อถามว่านายกฯ ในบัญชีรายชื่อที่มีอยู่ไม่พอใช่หรือไม่ จึงเสนอแนวคิดนี้ขึ้นมา พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่พอ แต่คนไม่ศรัทธา คนไม่เอาก็ไม่เอา อย่างมากก็ต้องหาคนที่ประชาชนต้องการ ที่ทำเพื่อประชาชน
เมื่อถามว่า ในความเห็นของพล.อ.วิชญ์มีใครที่เหมาะสมเป็นนายกฯคนนอกได้ พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า ไม่ได้มองใคร มองแค่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพราะท่านมีความเหมาะสม ที่สามารถจะช่วยประเทศได้ในเวลานี้เพราะท่านทำงานมาตลอด ก็น่าจะรู้ดีว่าทำอย่างไร
เมื่อถามว่า แสดงว่าพรรคเศรษฐกิจไทย จะไม่เสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ในการเลือกตั้งใช่หรือไม่ พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า คงไม่เสนอ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เมื่อถามว่าจะไม่เสนอใครเลยใช่หรือไม่ พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาก่อน อาจจะมีชื่อ
เมื่อถามถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจประเมินว่ารัฐบาลจะรอดหรือไม่ พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า บอกไม่ได้ อยู่ที่คำตอบของนายกฯ และ รัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ถ้าตอบในสิ่งที่โอเค ฝ่ายค้านก็พอใจพรรคร่วมรัฐบาลพอใจ ทุกอย่างก็ราบรื่น ในส่วนของพรรคเศรษฐกิจไทย เราอยู่ในฝ่ายรัฐบาลแต่สิ่งสำคัญจะยึดประชาชนเป็นหลัก สิ่งไหนที่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์เราก็ไม่เอาด้วย
