เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ในการประชุมยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนงานป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และถอดบทเรียนการดำเนินงานปี 2567 จัดโดย สสส. สำนัก 2 ที่โรงแรมเอ็มเพรส พรีเมียร์ จังหวัดเชียงใหม่
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ ได้รายงานสรุปกิจกรรมของสภาลมหายใจกรุงเทพฯในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา และรับฟังข้อมูลความคืบหน้าของกิจกรรมของสภาลมหายใจภาคเหนือ สภาลมหายใจเชียงใหม่ สภาลมหายใจเชียงราย สภาลมหายใจแม่ฮ่องสอน สภาลมหายใจลำปาง สภาลมหายใจลำพูน สภาลมหายใจน่าน สภาลมหายใจแพร่ และสภาลมหายใจพะเยา เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์สนาม การทำงานร่วมกันระหว่างภาคประชาสังคมกับหน่วยงานราชการ ภาคธุรกิจ และเครือข่ายชุมชนในแต่ละพื้นที่ในการป้องกันเฝ้าระวังไฟป่า การปรับเปลี่ยนพืชเชิงเดี่ยวไปเป็นพืชที่ไม่ต้องการไฟ การใช้การท่องเที่ยวเชิงชุมชน ท่องเที่ยวเชิงเกษตร และท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิที่เป็นศูนย์ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงปัญหาฝุ่นควัน การสื่อสารสังคมและชุมชน การปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับการใช้ไฟอย่างมีความรู้ มีความรับผิดชอบของทุกๆฝ่ายในพื้นที่ ตลอดจนการใช้ข้อมูลดาวเทียมในการประเมินความเสี่ยง ติดตามกองไฟ และการกำหนดทิศทางขับเคลื่อนสนับสนุนการพัฒนาร่างพรบ.อากาศสะอาด ที่ยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการขอสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้โดยมี ดร.นายแพทย์ ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุน สสส. เป็นประธานเปิดการประชุม และมีคณะนักวิชาการ นักกฏหมาย และนักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมในด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติเข้าร่วมให้ข้อมูลและการสนับสนุนกิจกรรมตลอดทั้งวัน
นายวีระศักดิ์กล่าวว่า ‘’…ผู้นำสภาลมหายใจภาคเหนือทุกจังหวัดมีความรอบรู้อย่างดีในเรื่องข้อมูลดาวเทียม ทั้งเรื่องการอ่านจุดความร้อน การเทียบพิกัด การพล้อตแผนที่คำนวณร่วมกับทางการในการจัดการปัญหาไฟในพื้นที่ การตรวจสอบเปรียบเทียบพื้นที่เผาไหม้ด้วยข้อมูลดาวเทียม และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการย่อยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปัญหาฝุ่นควัน การบันทึกสถิติ ซึ่งปรากฏว่าปี2567 จำนวนไฟในป่าและปัญหาฝุ่นควันในแต่ละพื้นที่ลดความรุนแรงลงได้มากจากการใช้ความรู้นำ บางพื้นที่ลดทั้งจำนวนกองไฟและพื้นที่เผาไหม้ลงได้เกินกว่า 60% ในระยะเวลาเฝ้าระวังเข้มงวด…’’
‘’…ความรู้ ทักษะและทัศนคติของผู้นำจากสภาลมหายใจจังหวัดต่างๆน่าประทับใจมาก และเชื่อว่าทางหลุดพ้นจากวิกฤติคุณภาพอากาศในพื้นที่เหล่านี้ชัดขึ้นมาก ต้องขอบคุณในความสามัคคีของทั้งแกนนำและเครือข่าย รวมทั้งขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนที่ดีทั้งจากเอกชน ชุมชน หลวงพ่อ และหน่วยงานที่เน้นการสื่อสารเครือข่าย เช่น สสส. กรมอนามัย แม้เราจะยังต้องเดินทางต่อกันอีกไกล แต่การที่สสส.จัดให้เราได้มาพบเจอกันแบบพบตัว ยิ่งสร้างความมั่นใจและสานพลังเครือข่ายเข้าหากันได้แน่นแฟ้นขึ้นอีก…’’
อนึ่ง ในตอนท้ายของการประชุม ที่ประชุมยังได้รับฟังความสำเร็จของโครงการทำบุญวิถีใหม่ ด้วยการเวียนเทียนด้วยต้นไม้ แล้วนำไปปลูกลงดิน ในโอกาสวันสำคัญทางศาสนา ลดขยะธูปเทียนที่ไม่จำเป็นลง ได้พื้นที่สีเขียวเพิ่ม และได้ปลูกป่าในใจของทุกคนด้วย