นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบนโยบายให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อแก้ไขปัญหาปุ๋ยแพงและปุ๋ยขาดแคลนจากผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครนและปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19จึงได้พบหารือกับ นิโคไล เชอร์เยฟ ที่ปรึกษาสำนักงานผู้แทนการค้ารัสเซียประจำประเทศไทย วิตาลี คิสเซเรฟประธานหอการค้าไทย-รัสเซีย ดร.ยงยุทธ สาระสมบัติ นายกสมาคมส่งเสริมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทย-รัสเซีย ดร.อาณัติชัย รัตตกุล คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.และดร. วนิดา กำเนิดเพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักการเกษตรต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการนำเข้าปุ๋ยเคมีจากรัสเซียเพิ่มขึ้นในราคามิตรภาพซึ่งจากการหารือรอบแรกผู้แทนการค้ารัสเซียยืนยันว่ารัสเซียกับไทยมีความสัมพันธ์กันมากว่าร้อยปีจึงเห็นด้วยในหลักการที่จะขายปุ๋ยให้ไทยในราคาพิเศษ
“ยังมีเรื่องต้องหารือเกี่ยวกับรูปแบบการนำเข้าจะใช้โมเดลการนำเข้าปุ๋ยจากรัสเซียในราคามิตรภาพโดยสถาบันเกษตรกรหรืออตก.และจำหน่ายสู่เกษตรกรโดยตรงหรือจะเป็นแบบซาอุดีอาระเบียโมเดล คือ ภาครัฐตกลงกันเรื่องราคามิตรภาพและมอบหมายเอกชนผู้ส่งออกนำเข้าของ2ประเทศไปเจรจากัน อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นต้นทุนการขนส่งและเรื่องระวางที่เพิ่มขึ้นจากการขนส่งปุ๋ยทางรถไฟมาลงเรือที่เมืองท่าวลาดิวอสต็อกทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกหรือขนส่งด้วยรถไฟจีน-ลาว และประเด็นเรื่องสกุลเงินในการชำระค่าปุ๋ย” นายอลงกรณ์กล่าว และว่า ทั้งนี้ในการประชุมครั้งหน้าจะเชิญผู้แทนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ตัวแทนสถาบันเกษตรกรสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และสมาคมผู้ค้าปุ๋ยร่วมหารือด้วย
นายอลงกรณ์กล่าวว่า ประเทศไทยนำเข้าปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศเกือบ100% กว่า 5 ล้านตัน เป็นมูลค่ากว่า 73,430 ล้านบาทในปี2564 มากกว่าปี 2563ถึง 54.1% ส่วนรัสเซีย เป็นประเทศที่ส่งออกปุ๋ยเคมี คิดเป็นมูลค่ามากที่สุดในโลกปีละกว่า 2 แสนล้านบาทคิดเป็นสัดส่วน 12.7% ของมูลค่าการส่งออกทั้งโลก โดยไทยนำเข้าจากรัสเซียเป็นมูลค่า 5,670 ล้านบาทในปี ที่แล้วคิดเป็นสัดส่วนราว 7.7% ของการนำเข้าปุ๋ยเคมีทั้งหมด ช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ราคาปุ๋ยเคมีทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นและเมื่อเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครนยิ่งทำให้ปุ๋ยเคมีมีราคาสูงยิ่งขึ้นไปอีกกระทบต่อต้นทุนของเกษตรโดยตรง ก่อนหน้านี้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการต่างประเทศและหอการค้าไทยได้เจรจาขอซื้อปุ๋ยเคมีราคามิตรภาพจากซาอุดีอาระเบียจนสามารถตกลงในหลักการและขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจานำเข้าส่งออกของภาคเอกชนของ 2 ประเทศ