ศาลอาญาธนบุรีสั่งจำคุก 6 ปี ปรับ 2 เเสน หมอ รพ.ตำรวจ เมาซิ่งปอร์เช่ ชนดับ 2 ศพ สาหัส 1 ราย ให้การสารภาพลดโทฟษกึ่งหนึ่ง โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี
วันนี้ (7 พ.ย.) ศาลอาญาธนบุรีนัดฟังคำพิพากษา คดีที่อัยการ ยื่นฟ้อง ร.ต.อ.นพ.ภาณุรักษ์ นายแพทย์(สบ1) กลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ตำรวจ เป็นจำเลย ในความผิดฐานขับรถขณะเมาสุรา และโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส ขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดและขับรถที่มีไว้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อมในเวลาต้องห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา291, 300 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522
อัยการระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2564 จำเลยได้ขับรถปอร์เช่ ป้ายแดง เวลาหลังพระอาทิตย์ตกแล้วไปตาม ถ.ราชพฤกษ์ แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ ในขณะที่จำเลยเมาสุราโดยมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และขับรถความเร็วเกินกว่า 80 กิโลเม ตรต่อชั่วโมงที่กฎหมายกำหนด แล้วได้เกิดพุ่งชนท้ายรถยนต์ฮอนด้าซีวิคได้รับความเสียหายอย่างมาก ซึ่งผู้โดยสารในรถยนต์ซีวิค 2 คน (ชาย-หญิง) ได้รับอันตรายจนถึงแก่ความตาย และหญิงที่ขับขี่รถยนต์ซีวิคคันดังกล่าวได้รับอันตรายสาหัส
นายกานต์พงศ์ สิริอิสสระนันท์ ลูกชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า คดีนี้ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ในความผิดฐานขับรถขณะเมาสุรา และโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส เป็นเวลา 6 ปี ปรับ 202,000 บาท แต่จำเลยรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 101,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี
ลูกชายผู้เสียชีวิต บอกว่า จะยื่นอุทธรณ์คดีขอให้ศาลเพิ่มโทษจำคุกและไม่รอการลงโทษเพราะเห็นว่าฝ่ายจำเลยไม่ได้รู้ในการกระทำโดยมารับสารภาพในการสืบพยานชั้นศาล แต่ก่อนหน้านี้ให้การปฎิเสธมาโดยตลอด ส่วนเรื่องค่าเสียทางจำเลยวางเงินค่าสินไหมทดแทนสำหรับครอบครัวตนที่ศาลเป็นจำนวนเงิน 1.5 ล้านบาท สำหรับการเสียชีวิตของพ่อตนเเละ 1 ล้านบาท สำหรับผู้บาดเจ็บสาหัสซึ่งเป็นน้องสาว รวมกันราคาสองชีวิตยังไม่ถึงครึ่งของมูลค่ารถปอร์เช่ที่ผู้ก่อเหตุขับชน
ด้าน น.ส.ผ่องเพชร ผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า หลังได้รับอุบัติเหตุมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้ว ก็ยังรักษาไม่หายเป็นปกติ ทางด้านคดีรู้สึกว่าไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรม กฎหมายบ้านเราลงโทษคดีเมาแล้วขับสถานเบาไม่เหมือนต่างประเทศ ทำให้เกิดคดีแบบนี้ซ้ำๆ