ที่ทำเนียบรัฐบาล 8 มีนาคม 2564พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 ว่า การประชุมวันนี้ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา 5G ของประเทศไทยในภาพรวมทั้งหมด มีภาคเอกชนมหาวิทยาลัย นักวิจัยต่าง ๆ เข้าร่วมหารือกันในวันนี้ โดยเฉพาะการพัฒนา 5G ที่บ้านฉาง สำเร็จแล้วในระดับหนึ่ง เตรียมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการใช้ประโยชน์ทุกกิจกรรมในพื้นที่ EEC อีกครั้งหนึ่ง
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงแนวทางการผ่อนคลายทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะเปิดการสัญจรเดินทางไปทุกพื้นที่ โดยพิจารณามาตรการรองรับในการป้องกัน COVID-19 ด้วย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง กำลังหารือกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เป้าหมายสำคัญคือ ทำอย่างไรไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในระลอกใหม่ เพราะการเคลื่อนที่ของประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยว การค้าขาย โรงแรม ผู้ประกอบการธุรกิจมีรายได้ขึ้นมา ฟื้นฟูช่วงเวลาที่สูญหายในช่วงที่ผ่านมา หลายอย่างกำลังดำเนินการอยู่เพื่อให้ทันก่อนเทศกาลสงกรานต์นี้
นายกรัฐมนตรียังเผยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขประชุมเร่งรัดให้เตรียมพิจารณาข้อกำหนดการออกพาสปอร์ตวัคซีนโควิด-19 ระหว่างรอองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดมาตรฐานกลางเพื่อให้ทุกประเทศทั่วโลกใช้มาตรฐานเดียวกัน สำหรับการนำเข้าวัคซีนของภาคเอกชนนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้เชิญผู้ประกอบการต่าง ๆ มาหารือบ้างแล้ว โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนหรือกลุ่มต่าง ๆ ที่ต้องการนำเข้าวัคซีนเข้ามาเอง อย่างไรก็ตาม วัคซีนที่เอกชนจะนำเข้าต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย ต้องชี้แจงแหล่งที่มาของวัคซีนและปริมาณการนำเข้าและต้องรายงานความคืบหน้าของการนำเข้าและการใช้วัคซีนอย่างต่อเนื่องอีกด้วย นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นใครหรือเอื้อประโยชน์ให้ใครในการนำเข้าวัคซีนทั้งสิ้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงผลเลือกตั้งซ่อม ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาลเปลี่ยนไป ไม่มีผลในการปรับเก้าอี้รัฐมนตรีทั้งสิ้น ส่วนการแก้ปัญหาบางกลอยนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการเรื่องนี้อยู่ในขณะนี้ ในส่วนของ P MOVE วันนี้เข้าสู่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) พิจารณาให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงพื้นที่เพื่อทำกินได้