ตำรวจคุมตัวชายอายุ 66 ปี ที่โพสต์รับบริจาคเงินไปทำพิธีตามความเชื่อมาสอบสวน พบมีเงินโอนเข้ามากว่า 7 แสนบาท โอนไปให้สำนักงานทำพิธีแล้ว 3 แสนบาท เตรียมแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.เรี่ยไร
ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. เข้าควบคุมตัวชายอายุ 66 ปี มาสอบสวน หลังพบมีการโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก และแอบอ้างว่าจะนำไปทำพิธีตามความเชื่อ โดยใส่หมายเลขบัญชีให้ผู้ที่สนใจร่วมทำพิธีโอนเงินเข้ามาในบัญชีส่วนตัว จนพบว่ามีคนโอนเงินมาร่วมบริจาคจำนวนมาก
พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการ สอท. เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการโพสต์ข้อความดังกล่าวจึงสืบสวนพบว่าพักอยู่ย่านพัฒนาการ 44 จึงเข้าไปเชิญตัวมาสอบสวน จากการตรวจสอบบัญชีของชายคนนี้ พบมีเงินโอนเข้ามาจำนวนกว่า 7 แสนบาท โดยชายคนนี้อ้างว่านำไปซื้อของทำพิธี และโอนเงินไปที่สำนักงานแห่งหนึ่งในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา กว่า 3 แสนบาท ส่วนที่เหลืออ้างว่าเตรียมนำไปไถ่ชีวิตโค-กระบือ และทำพิธีในส่วนอื่นต่อ
ตำรวจได้พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา คือ ฉ้อโกงประชาชน ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และพ.ร.บ.เรี่ยไร่ โดยชายคนนี้รับสารภาพใน 2 ข้อหา เว้นแต่ข้อหาฉ้อโกงประชาชนที่ยังให้การภาคเสธ ส่วนข้อหาตามมาตรา 112 ยังไม่พบว่าเข้าข่ายผิด เนื่องจากอยู่ที่เจตนา
สำหรับบัญชีที่โพสต์ไว้มี 2 บัญชี ตำรวจจะเชิญชื่อบัญชีของอีกหนึ่งบุคคลมาสอบสวนด้วย และตรวจสอบบัญชีปลายทางที่โอนไปให้ ส่วนผู้ที่โอนเงินเข้ามาก่อนหน้านี้ก็ถือว่าเป็นการโอนเข้ามาบริจาคเต็มใจ แต่หลังจากนี้หากไม่สบายใจก็สามารถมาร้องทุกข์ขอเงินคืนจากผู้รับบริจาคได้
เบื้องต้น พบว่าชายคนนี้เป็นอดีตอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งที่เกษียณมาแล้ว และมีความเชื่อทางพิธีกรรมจึงโพสต์เรี่ยไรรับบริจาคเงิน อ้างตัวว่า เป็นผู้วิเศษและสามารถสื่อสารกับสิ่งที่มองไม่เห็น และจะทำให้เหตุการณ์ดีขึ้น ซึ่งเมื่อเห็นการวิจารณ์ในเฟสบุ๊กก็ปิดรับบริจาคตั้งแต่ 12.00 น.ที่ผ่านมา ส่วนเงินก็โอนไปให้สำนักงานทำพิธีแล้วในวันพรุ่งนี้ แต่ก็ต้องยกเลิกพิธีไป
พล.ต.ต.วิวัฒน์ ยังเตือนให้ประชาชนระมัดระวังกับการเปิดรับบริจาคเงินที่มีการแอบอ้างเบื้องสูง และหากมีการเรี่ยไรโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตก็จะถูกดำเนินคดีได้
