เหลืออีกไม่กี่วันจะมีการตัดสินว่าประเทศใดจะได้จัดงาน Specialised Expo 2028 โดยองค์การนิทรรศการนานาชาติ (Bureau International des Expositions หรือ BIE) จะตัดสินว่าชาติใดจะได้เป็นผู้จัดการ Specialised Expo 2028 ในวันพุธที่ 21 มิถุนายน 2566 โดยประเทศไทยจังหวัดภูเก็ตได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน ภายใต้ชื่องาน Expo 2028 – Phuket, Thailand เพื่อผลักดันบทบาทของประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical hub) และเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก โดยการเสนอตัวครั้งนี้ประเทศไทยใช้ธีม Future of Life : Living in Harmony, Sharing Prosperity ชีวิตแห่งอนาคต-แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่ง
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. หรือ TCEB เชิญชวนให้คนไทยร่วมกันส่งแรงเชียร์ไปยังกรุงปารีส ฝรั่งเศส ในวันพุธที่ 21 มิถุนายนนี้ พร้อมยืนยันถึงความพร้อมของประเทศไทยที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน โดยเฉพาะคนภูเก็ตทั้งราชการ เอกชน ได้ร่วมแรงกันผลักดันจนทำให้เราผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้ายได้ ถือว่าเป็นการระเบิดจากภายในคือเป็นการขับเคลื่อนจากคนในพื้นที่
นอกเหนือไปจากความโดดเด่นด้านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในประเทศ, ความแข็งแกร่งในด้านสถานที่, การกำหนดเนื้อหาที่เน้นด้านสุขภาพและความยั่งยืน ซึ่งคณะทำงานนำเสนอข้อมูลให้กับชาติสมาชิกมาอย่างต่อเนื่อง และได้พบปะเพื่อนำเสนอข้อมูล ขอเสียงสนับสนุนจากชาติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มชาติอาเซียน, เอเชีย หรือหลาย ๆ ชาติในยุโรป เชื่อว่าประเทศไทยมีโอกาสมากในครั้งนี้
ขณะที่กลุ่มจังหวัด Andaman Wellness Corridor (AWC) ได้แก่ กระบี่ พังงา ตรัง ระนอง และสตูล จะมีโอกาสได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมในทันทีและต่อไปในอนาคต เช่น
(1) ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและภาคที่เกี่ยวข้องย่อมมีโอกาสต้อนรับแขกที่เข้าร่วมงานเช่นเดียวกับภูเก็ต ซึ่งรวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่อง
(2) การจ้างงานที่จะเพิ่มขึ้นโดยตรงเพื่อรองรับผู้เข้าร่วมงานและจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น
(3) การพัฒนาในพื้นที่ให้สามารถรองรับการจัดงานและโอกาสในอนาคต
(4) โอกาสระดับโลกที่จะได้ประชาสัมพันธ์ AWC อย่างไรก็ดี การจะได้รับประโยชน์มากน้อยเพียงใดขึ้นกับความมุ่งมั่นตั้งใจและความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งราชการ เอกชน และประชาชน ที่จะต้องวางแผนเตรียมความพร้อมและลงมือคว้าโอกาสไว้ โดยต้องไม่ลืมว่า ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ภูเก็ตก็จะยังเดินหน้ายกระดับตามแผนสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า การท่องเที่ยวหลังโควิดจะเปลี่ยนไปจากรูปแบบการเดินทางเพื่อพักผ่อนเฉยๆ ก็อาจแฝงด้วยเรื่องของการกินดีอยู่ดี ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีหรือที่เรียกกันว่า wellness ซึ่งในภาพรวมของประเทศหวังจะใช้งานสเปเชียลไลส์ เอ็กซ์โป จุดพลุเพื่อให้เห็นถึงศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางความรู้ สร้างภาพลักษณ์การเป็นเวิลด์คลาส เดสติเนชั่นในการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Medical and Wellness Tourism ถือเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับคู่แข่งของไทยที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน Specialised Expo 2027/2028
ประกอบด้วย มลรัฐมินิโซตา สหรัฐอเมริกา ภายใต้แนวคิด Healthy People, Healthy Planet: Wellness and Well-Being for All เมืองเบลเกรด ประเทศเซอร์เบียภายใต้แนวคิด Play for Humanity – Sport and Music for All
เมืองมาลาก้า ประเทศสเปน ภายใต้แนวคิด The Urban Era: towards the sustainable city เมืองซาน คาร์ลอส เดอ บาริโลเช่ ประเทศอาร์เจนตินา ภายใต้แนวคิด Nature + Technology = Sustainable Energy. A viable future for humanity