วันนี้ (4 พ.ย. 66) เวลา 13.30 น. ณ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ ตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และติดตามระบบการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำให้รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปแผนการพัฒนาแหล่งน้ำรองรับเขตเศรษฐกิจ EEC จากนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รวมทั้งรับฟังสรุปสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำรับมือผลกระทบจาก El Nino แผนพัฒนาแหล่งน้ำในอนาคตในพื้นที่ EEC จากผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า ปัญหาเรื่องน้ำเป็นปัญหาที่ทุกคนตระหนักดี ทั้งปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง รวมถึงการขาดแคลนน้ำในการใช้ในภาคอุตสาหกรรม ในบางพื้นที่ ซึ่งการใช้น้ำมีความสำคัญอย่างมากสำหรับประชาชน ทั้งด้านอุปโภคบริโภค ด้านการเกษตร การรักษาระบบนิเวศ และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งพื้นที่ EEC ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศ เป็นพื้นที่ที่ต้องโฟกัส การใช้น้ำทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรม ที่มีความต้องการใช้น้ำสูง ทั้งนี้ ปัญหาของขัดแย้งของประชาชนในอนาคตที่จะเกิดขึ้น เกี่ยวกับปัญหาการแย่งน้ำระหว่างภาคเกษตรกับภาคอุตสาหกรรมก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งรัฐบาลตระหนักและให้ความสำคัญอย่างมาก โดยสิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเสนอมีหลายประเด็น ทั้งแผนการพัฒนารองรับความต้องการน้ำ การเชื่อมต่อท่อส่งจ่ายน้ำ เชื่อว่าทุกหน่วยงานได้ทำการศึกษามาดี
อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา อีกหนึ่งเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมาก คือการเชิญนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ดังนั้น การเตรียมความพร้อมในด้านน้ำและพลังงานสะอาดก็เป็นเรื่องที่มีความสำคัญในการที่จะดึงดูดและสร้างความเชื่อมั่น ให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยให้มากขึ้น ดังนั้น จึงยอมไม่ได้ที่จะให้เกิดเหตุการณ์ที่จะขาดแคลนน้ำเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องอาศัยการทำงาน ร่วมกันของทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง สทนช. กรมชลประทาน กระทรวงอุตสาหกรรม บีโอไอ ทั้งนี้ การที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีแผนงานมานำเสนอวันนี้เป็นเรื่องที่ดี และไม่อยากให้ความล่าช้าเกิดขึ้นในการบริหารจัดการเรื่องนี้ ดังนั้น หากมีปัญหาติดขัดในเรื่องใดรัฐบาลพร้อมที่จะบริหารจัดการตรงนี้ให้ดี นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่าการสื่อสารกับประชาชนก็เป็นเรื่องสำคัญ อยากให้มีการสื่อสารที่ดีขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในการแย่งน้ำเกิดขึ้น หากตรงไหนมีปัญหาเกิดขึ้นขอให้แจ้งมาได้
นายกรัฐมนตรีย้ำถึงเรื่องของการจัดหาแหล่งน้ำต่าง ๆ การขุดเจาะและการเชื่อมโยงส่งน้ำว่าล้วนเป็นเรื่องสำคัญ การลงทุนครั้งนี้มั่นใจว่าจะคุ้มค่าและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติสูงสุด ซึ่งหากไม่ทำตรงนี้ ก็ไม่สามารถยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและหลุดจากกับดักรายได้ปานกลางได้ และในอนาคตที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาล ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานรัฐ ต้องให้ความสำคัญ
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการลงพื้นที่ EEC ครั้งแรกวันนี้ว่า รู้สึกดีใจที่ทุกภาคส่วนมาร่วมมือกัน ซึ่งเรื่องน้ำก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญที่ได้มีการหยิบยกมาพูดคุยกัน พร้อมกล่าวว่าจะกลับมาที่นี่อีกใน 60 วันข้างหน้า เพื่อมาดูเรื่องการแก้ไขเรื่องความขัดแย้งที่ยังไม่ถูกบริหารจัดการไป ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และจะทำงานอย่างรวดเร็วฉับไว และตอบโจทย์พี่น้องประชาชนและนักลงทุนต่างชาติที่จะมาลงทุนในประเทศด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีดูสถานีสูบน้ำหนองปลาไหล 1 และติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล พร้อมยังได้ติดตามความก้าวหน้าข้อสรุปการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำโครงการท่อส่งน้ำภาคตะวันออก หรือท่อส่งน้ำอีอีซีระหว่างบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ผู้รับสัมปทานรายใหม่ และบริษัท จัดการและการพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสท์วอเตอร์ ผู้รับสัมปทานรายเดิม
นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า เรื่องน้ำเป็นเรื่องที่สำคัญ ในอดีต รัฐบาลมีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเดินทางไปเชิญนักลงทุนต่างประเทศให้มาลงทุนในประเทศไทย สองเรื่องหลักที่เขาสนใจคือเรื่องพลังงานไฟฟ้าสะอาด กับเรื่องการมีน้ำใช้อย่างเพียงพอในภาคอุตสาหกรรม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีปัญหาอยู่บ้างในเรื่องของการปั๊มน้ำเข้ามาจากแหล่งต่าง ๆ และเรื่องการจัดส่งน้ำที่ภาคเอกชนอาจจะมีความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้นเป็นความขัดแย้ง วันนี้จากการร่วมมือกัน โดยการแก้ไขปัญหาจากเลขาธิการ EEC ที่ได้นำสองภาคส่วนคือ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้างฯ และบริษัท อีสต์วอเตอร์ ที่มีความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้น แต่ตอนนี้มีการแก้ไขปัญหาตรงนี้เรียบร้อยแล้ว นายกฯ จึงมาเป็นสักขีพยานว่า ณ เวลานี้ที่สื่อมวลชนให้ความสำคัญมีการเขียนข่าว เสนอแนะข้อมูลมาตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา บัดนี้ มีข้อยุติในการร่วมมือของทั้งสองฝ่ายแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายมีความยินดีที่จะทำงานร่วมกันเพื่อให้ก้าวข้ามปัญหาการขาดแคลนน้ำในภาคส่วนนี้ไปได้ ซึ่งตรงนี้จะให้ความมั่นใจกับนักลงทุนที่รัฐบาลจะไปเชิญให้มาลงทุนในประเทศไทย ว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นในอนาคต โดยนายกรัฐมนตรีในนามของรัฐบาลไทย ขอบคุณทั้งสองบริษัทที่เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ขอให้ลืมไป ขอให้ทุกคนร่วมกันช่วยพัฒนาประเทศให้เดินไปข้างหน้าให้ได้
สำหรับอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล เป็นโครงการซึ่งตั้งเป้าหมายที่จะเก็บน้ำไว้ใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมของแผนพัฒนาอุตสาหกรรมหลัก พื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกและจะทำหน้าที่ส่งน้ำไปใช้ในการเพาะปลูกที่อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง พื้นที่ส่งน้ำประมาณ 30,000 ไร่ ทดแทนน้ำที่เคยส่งไปจากอ่างเก็บน้ำดอกกราย ซึ่งขณะนี้ถูกส่งไปที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และมีแผนที่จะส่งไปยังอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นการขยายพื้นที่อุตสาหกรรม โดยน้ำจากอ่างเก็บน้ำของโครงการหนองปลาไหล จะใช้สนับสนุนในกรณีที่อ่างเก็บน้ำดอกกรายไม่เพียงพอที่จะส่งให้พื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรม และจะส่งไปยังอ่างเก็บน้ำหนองค้อ อำเภอศรีราชา เพื่อใช้สำหรับนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำระยอง และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืดของภาคตะวันออกอีกแห่งหนึ่ง รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจด้วย