นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภาและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง ความเป็นไปได้ในการผลักดันนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ เวทีเสวนา SOFT POWER ฝันไกล ไปได้แค่ไหน จัดโดยสำนักขาวบางกอกทูเดย์ โดยระบุว่า นับเป็นครั้งแรกที่ นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ถูกหยิบยกเป็นโยบายระดับชาติ จากทั้งทางพรรคเพื่อไทยเอง และทุกพรรคที่หาเสียงไว้ช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งหากอ้างอิงจากนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หนึ่งในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวถึง Roadmap ก็ประเมินว่า อาจจะใช้เวลาถึง 3 ปี ถึงจะเริ่มเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ตามแผน
“นโยบายนี้อาจจะไม่สามารถคาดหวังได้ระยะเวลาอันรวดเร็ว เพราะเป็นเรื่องที่ต้องขับเคลื่อนในระยะยาว รวมถึงนโยบายนี้มีมิติ 3 ด้านสำคัญ คือ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ทับซ้อนกันอยู่ อย่างประเทศที่ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์สำเร็จอย่าง เกาหลีใต้ สำเร็จได้จากนโยบายการเมืองที่แข็งแรงและต่อเนื่อง” วีระศักดิ์ กล่าว
ด้านยุทธศักดิ์ สุภสร อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มองว่า ปัจจุบันนี้ คนไทยมีความเข้าใจเรื่องซอฟต์พาวเวอร์มากกว่าในอดีต สำหรับซอฟต์พาวเวอร์ที่โดดเด่นของไทย เช่น ภาพยนตร์ แฟชั่น อาหารไทย เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถนำมาสร้างมูลค่าในมิติการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ได้อย่างดี สามารถนำไปต่อยอดทำให้เกิดการสร้างมูลค่าได้
นอกจากนี้ยังแนะนำว่า การผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้เป็นรูปธรรม ตามแผน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ต้องเริ่มที่ความสามารถและจุดแข็งประชาชนในพื้นที่ เป็นที่ตั้ง ใช้วิธีสร้างการมีส่วนร่วมเชื่อมโยงพื้นที่ สร้างเครือข่าย โดยรัฐบาลมีหน้าที่ในการค้นหาจุดแข็งเหล่านี้ขึ้นมา เพื่อนำมาส่งเสริม โดยต้องระวังในการดำเนินนโยบายว่า ต้องไม่ใช้วิธีบังคับประชาชน เพื่อให้เกิดความยั่งยืน
อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทิ้งท้ายว่า ส่วนตัวอยากเห็นรัฐบาลผลักดัน ‘ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย’ ได้เหมือนกับ ‘เกาหลีโมเดล’ ซึ่งเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ประเทศผ่านสินค้าและผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและยกระดับภาพลักษณ์ของไทยได้ในเวลาเดียวกัน