วันนี้ (23 พฤศจิกายน 2566) เวลา 10.00 น. ณ พระวิหารหลวง วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหารกรุงเทพมหานคร มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระกุศลใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานผ้าไตรและเครื่องไทยธรรมจำนวน 10 ชุดสำหรับร่วมในพิธี นับว่ามีความเป็นพิเศษยิ่ง สำหรับการทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ครั้งนี้ พระพรหมวัชราจารย์ (พูนศักดิ์ วรภทฺทโก) เจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์ รวม 10 รูป และมี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองประธานกรรมการที่ปรึกษาและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิฯ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยคณะกรรมการ ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ตลอดจนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) อาสา ปฏิบัติการภัยพิบัติ เครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) และหน่วยงานภาคีเครือข่ายของมูลนิธิ เข้าร่วมในพิธีโดยพร้อมเพรียง
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ได้กำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือนโดยในครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 14 ประจำเดือนพฤศจิกายน พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนา ถวายผ้าไตรจีวรเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรม และภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ คณะสงฆ์และผู้ร่วมพิธีร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์ขอให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา องค์ประธานกรรมการมูลนิธิฯ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ องค์นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพมูลนิธิฯ ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นองค์กรการกุศลไม่แสวงหาผลกำไร จัดตั้งตามพระดำริของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงดำรงตำแหน่งเป็นนายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ และมีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นประธานกรรมการมูลนิธิฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและเชื่อมโยงให้ภาครัฐ เอกชน และชุมชน ร่วมกันเกื้อหนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามทุกข์ยากจากอุทกภัยและภัยพิบัติที่รุนแรง คือการร่วมกัน ระดมองค์ความรู้ นวัตกรรมกำลังแรงกาย ทุนทรัพย์ และ จิตสาธารณะเพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างครบวงจร รวมทั้ง การพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้ผู้ทุกข์ยากน้อยกว่าช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากมากกว่า ผู้ที่แข็งแรงช่วยผู้อ่อนแอโดยมุ่งเน้นการประทังชีวิตและ การฟื้นฟูสภาพจิตใจ มูลนิธิฯ ตลอดระยะเวลา 28 ปี มูลนิธิฯปฏิบัติงานและยึดหลักภายใต้แนวคิด “แบ่งปัน พอเพียง ยั่งยืน”