ตำรวจเด็กและสตรีจับขบวนการต่างด้าวค้ามนุษย์ตะเวนขอทานย่านมีนบุรี กรุงเทพฯ

Mummai Media

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.66 เวลาประมาณ 21.00 น. ภายใต้การอำนวยการ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.),พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล , พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฒิรักษ์ ,พ.ต.ท.มโรดม์ ขวัญเมือง รอง ผกก.ดส.บช.น. ชุดปฎิบัติการที่ 1 นำโดย พ.ต.ท.จักรี นารีผล สว.กก.ดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 1 ได้ร่วมกันจับกุมตัว

1. นางสาวซอม วี อายุ 44 ปี (สัญชาติ กัมพูชา) เลขประจำตัวคนต่างด้าว 0010101524005  ผู้ต้องหาที่ 1 พูดและฟังภาษาไทยเข้าใจเป็นอย่างดี 

2. Mr.Hout Soheng อายุ 48 ปี (สัญชาติ กัมพูชา) ผู้ต้องหาที่ 2 พูดและฟังภาษาไทยเข้าใจเป็นอย่างดี

พร้อมด้วยของกลาง 1.ธนบัตรรัฐบาลไทยฉบับละ 20 บาท จำนวน 4 ฉบับ หมายเลข 2ข7023749, 1ก2122979,1พ0241314, 4ท0204537 (ลงประจำวัน กก.ดส.บช.น.)

2.กล่องพลาสติกสีแดง ที่ใช้ใส่ธนบัตรของกลาง 2 กล่อง

3.สำเนาประจำวัน กก.ดส.บช.น. ข้อที่ 5 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 2566 เวลา 18.00 น. จำนวน 1 ฉบับ

สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 32 ซ.เจริญพัฒนา 17 แขวงบางขัน เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร

ผู้ต้องหาที่ 1 และ ผู้ต้องหาที่ 2 ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ (จากเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และเด็กอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ) ตาม พรบ.ค้ามนุษย์ฯ มาตรา 6 (5)(6) และ พรบ.คุ้มครองเด็กฯ ม.26

และ ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒

พฤติการณ์ตามข้อกล่าวหาในการจับกุม กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.ดส.บช.น.ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการสืบสวนหาข่าว และทำการจับกุมการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็กและเยาวชนที่ไม่เหมาะสมในลักษณะหรือในสภาพแวดล้อม ที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของบุคคลนั้น หรือขัดต่อศีลธรรมอันดี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. ได้รับแจ้งจากสายลับขอปิดนาม (ประสงค์สินบนนำจับ) แจ้งว่า ได้มีชายและหญิง(ไม่ทราบสัญชาติ) พาเด็กชายและเด็กผู้หญิง(ไม่ทราบสัญชาติ) มานั่งขอทานอยู่ภายในบริเวณตลาดปากซอย ถ.สุวินทวงศ์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งจะมาตั้งแต่ เวลา 18.00 น. ถึงเวลา 21.00 น. เป็นประจำเกือบทุกวัน

ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวตามที่สายลับแจ้งและให้ข้อมูลมา โดยได้ทำการเฝ้าติดตาม และตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว อยู่เป็นเวลา 2 อาทิตย์ พบว่าตามข้อมูลที่สายลับได้แจ้งมานั้น จะมีชายและหญิง(ไม่ทราบสัญชาติ) พาเด็กชายและเด็กหญิง (ไม่ทราบสัญชาติ) มานั่งขอทานอยู่บริเวณสถานที่ดังกล่าวข้างต้นเป็นประจำ

โดยวันที่ 13 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.บช.น. ชุดจับกุม ได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อทราบ จากนั้นได้วางแผนเพื่อทำการเข้าช่วยเหลือเหยื่อ โดยได้ลงประจำวันเข้าทำการล่อซื้อ ตามประจำวันข้อที่ 5 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2566 เวลา 18.00 น. โดย พ.ต.ท.จักรี นารีผล สว.กก.ดส. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. ชุดจับกุมไปซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียงตามสถานที่ที่สายลับได้พาไปชี้จุดสถานที่เกิดเหตุ จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 19.00 น. พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นคลิก สีน้ำเงิน ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฬคต 320 กรุงเทพมหานคร โดยมี นาย Hout Soheng (ทราบชื่อ-สกุลจริงภายหลัง) เป็นผู้ขับขี่ และมีนางสาวซอม วี (ทราบชื่อ-สกุลจริงภายหลัง) เป็นคนซ้อนท้าย โดยมาพร้อมกับ ด.ญ.เสร็จเป็จ โบน อายุ 8 ปี (ทราบชื่อ-สกุลจริงภายหลัง) สัญชาติกัมพูชา และ ด.ช.เพียร์รม เฮง อายุ 13 ปี (ทราบชื่อ-สกุลจริงภายหลัง) สัญชาติกัมพูชา จากนั้นได้พาเด็กทั้งสอง ไปนั่งตามจุดภายในบริเวณตลาดฯ ส่วนผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 จะไปยืนรออยู่บริเวณลานจอดรถยนต์ด้านท้ายของ

ตลาดฯ

จะเอาเด็กมาลง เพื่อขอทานแบ่งเป็นเวลา

วันธรรมดา (จ-ศ) ช่วงเย็น ประมาณ 18.00 น.-21.00 น.

วันเสาร์-อาทิตย์ จะเป็นช่วงเช้า ตี 5 – ประมาณ 8 โมง เช้า

ถ้าเด็กไม่ไป ก็จะมีการลงโทษ โดยการตี ฯลฯ

ภัยสังคมที่มาในรูปแบบของต่างด้าว

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สังเกตุการณ์อยู่บริเวณที่เกิดเหตุพบว่า ในขณะที่ประชาชนทั่วไปได้เดินทางสัญจรไปมาบริเวณที่เกิดเหตุนั้น เด็ก (หรือเหยื่อ) ทั้ง 2 คน จะทำการเรียกร้องขอเงินแก่ประชาชนที่สัญจรไปมาบริเวณตลาดฯ โดยเมื่อมีประชาชนนำเงินมาให้ ก็จะทำการยื่นเงินลงไปในกล่องสีแดง ที่ได้จัดเตรียมมา

ต่อมา เมื่อถึงเวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ให้สายลับทำการนำเงินสดที่ลงประจำวัน ไปให้ทานเด็ก จำนวน 80 บาท จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาประมาณ 20.30 น. เด็กทั้งสองได้เลิกขอทานและเดินไปหา ผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 บริเวณด้านท้ายตลาดฯ เพื่อเดินทางกลับที่พัก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.บช.น. ชุดจับกุม ได้สะกดรอยติดตามไปจนถึงบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 32 ซ.เจริญพัฒนา 17 แขวงบางขัน เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.บช.น. ชุดจับกุม จึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอทำการตรวจค้น ก่อนการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจพร้อทแสดงบัตรฯ ให้แก่ผู้ต้องหาดูจนเป็นที่พอใจแล้วจึงทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบธนบัตรรัฐบาลไทยที่ลงไว้จำนวน 80 บาท ซึ่งเป็นธนบัตรในการล่อซื้อตามประจำวันข้อที่ 5 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 2566 เวลา 18.00 น. ซึ่ง(ของกลางรายการที่ 1) อยู่ภายในกล่องกระดาษสีแดง (ของกลางรายการที่ 2) อยู่ในมือทั้งสองข้างของ น.ส.ซอม วี ผู้ต้องหาที่ 1 ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการเข้าตรวจค้น มี Mr.Hout Soheng (ผู้ต้องหาที่ 2) ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในห้องพักของตน ซึ่งจากการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายและจากการสอบถามเบื้องต้น ได้รับว่า นางสาวซอม วี (ผู้ต้องหาที่ 1) และ Mr.Hout Soheng (ผู้ต้องหาที่ 2) กับ ด.ช.เพียร์รม เฮง เป็นบิดามารดากัน ส่วน ด.ญ.เสร็จเป็จ โบน นั้นเป็นหลาน ซึ่งตนทั้งสอง เป็นตาและยาย และพาเด็กทั้งสองมาขอทานเพื่อหาเงิน เพราะทำให้มีผลต่อจิตใจ ส่งผลให้ประชาชนบริเวณนั้นสงสารและมอบเงินให้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. จึงได้เชิญตัว น.ส.ซอม วี ผู้ต้องหาที่ 1 และ Mr.Hout Soheng ผู้ต้องหาที่ 2 มาที่ กก.ดส.บช.น. พร้อมทั้งได้แจ้งเจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้ามาร่วมคัดแยกเหยื่อ

ต่อมาจากการสอบถามของนักสังคมสงเคราะห์ฯ ที่สอบถาม ด.ญ.เสร็จเป็จ โบน อายุ 8 ปี (สัญชาติกัมพูชา) และ ด.ช.เพียร์รม เฮง อายุ 13 ปี (สัญชาติกัมพูชา) ได้ทราบว่า ตนทั้งสองจะต้องมานั่งขอทานอยู่ที่บริเวณสถานที่ดังกล่าวเป็นประจำ โดยมานั่งขอทานบริเวณตลาดฯ ในแต่ละวันจะได้เงินวันละประมาณ 300 กว่าบาท โดย น.ส.ซอม วี ผู้ต้องหาที่ 1 และ Mr.Hout Soheng ผู้ต้องหาที่ 2 นั้นได้ยอมรับว่า ตนจะทำหน้าที่ช่วยกันคอยมารับและมาส่ง เด็กทั้งสองเพื่อขอทาน บริเวณตลาดฯ ดังกล่าวข้างต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ถูกจับแก่ น.ส.ซอม วี ผู้ต้องหาที่ 1 และ Mr.Hout Soheng ผู้ต้องหาที่ 2 ให้ทราบจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว

จากนั้นได้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป