เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 66 เวลา 22.00 น. บริเวณถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บูรณาการตรวจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และตรวจความเรียบร้อยสถานบันเทิงในย่านสีลมภายหลังอนุญาตให้สถานบันเทิงสามารถเปิดได้ถึง 04.00 น. โดยมี พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย นางธราพร อำนวยสาร ผู้อํานวยการเขตบางรัก พันตำรวจเอก รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลยานนาวา พันตำรวจเอก ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางรัก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่
โดยจุดแรก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมลงนามสมุดตรวจเยี่ยมจุดตรวจมาตรการความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลยานนาวา ซึ่งดำเนินการตั้งด่านโดยยึดหลักการตั้งด่านตรวจ/จุดตรวจตามหลักยุทธวิธี แบ่งพื้นที่ปฏิบัติการ 5 โซน ได้แก่ 1. พื้นที่เฝ้าระวังสังเกตรถต้องสงสัย 2. พื้นที่คัดกรอง 3. พื้นที่ตรวจค้น/กองอำนวยการ 4. พื้นที่คอยสกัดรถ 5. พื้นที่ควบคุมผู้กระทำผิด
จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ลงพื้นที่ตรวจสถานบันเทิงย่านสีลม ได้แก่ 1) ร้านเดอะ พาติโอ 2) ร้านเดอะ เจ.เจ.ปาร์ค 3) ร้านดี.เจ.สเตชั่น 4) ร้านดิสโก้ ดิสโก้ โดยระหว่างตรวจเยี่ยมได้พบปะกับผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว ตลอดจนพ่อค้า แม่ค้า ที่ตั้งอยู่ตามแนวเส้นทางตรวจเยี่ยม และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยกล่าวว่า “การลงพื้นที่ร่วมกับ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายปกครอง ตลอดจนกรุงเทพมหานคร ในวันนี้ เป็นการให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด่านตรวจ/จุดตรวจเพื่อดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 รวมทั้งตรวจติดตามการปฏิบัติตามนโยบายขยายเวลาให้บริการสถานบริการ เพื่อให้ความมั่นใจว่าการสัญจรของพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นไปด้วยความปลอดภัย โดยเฉพาะเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
“ถ้าดื่มต้องไม่ขับ ถ้าขับต้องไม่ดื่ม” ทั้งนี้ จากการตรวจติดตามการให้บริการตามนโยบายฯ ที่ผ่านมาพบว่า ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจเข้ม “ต้องไม่ให้มียาเสพติด ไม่ให้มีอาวุธปืน ไม่มีเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าใช้บริการ” ทั้งนี้ สถานบริการที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องและตั้งอยู่ในพื้นที่ตามโซนนิ่งที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงเท่านั้นที่สามารถให้บริการตามมาตรการขยายเวลาได้ ในส่วนของร้านอื่น ๆ หลังเวลาที่กฎหมายกำหนด (เที่ยงคืน) ก็สามารถจำหน่ายอาหารได้ตามปกติ”
“ที่ผ่านมาเราตรวจติดตามทุกพื้นที่ ทั้ง RCA ข้าวสาร จังหวัดเชียงใหม่ และวันนี้มาที่สีลม ตอนนี้เราตรวจสถานที่ตาม Zoning และต่อไปจะสุ่มตรวจพื้นที่อื่นที่อาจมีการลักลอบกระทำผิดกฎหมาย ถ้าพบต้องดำเนินการตามกฎหมายไม่มีละเว้น และขอย้ำว่า สิ่งที่เราได้ทำ คือ การขยายเวลาให้บริการถึงตี 4 ในพื้นที่ที่กำหนดนั้น ไม่ได้เป็นการเอาใจนักท่องเที่ยว แต่เรามุ่งหวังให้กิจการต่าง ๆ ทั้งร้านนวดเท้า พ่อค้า แม่ค้า ที่จำหน่ายเสื้อผ้า จำหน่ายลูกชิ้นทอด ไก่ทอด อาหาร สามารถมีเวลาหารายได้มากขึ้น และผู้ประกอบการก็สามารถจ้างงานพนักงานเวลาเพิ่มขึ้น คนขับแท็กซี่ ขับแกรบ มีรายได้เพิ่ม พนักงานก็ได้เงินรายได้มากขึ้น และสำหรับการประกอบการของสถานบริการที่ได้รับอนุญาตก็พบว่า หากมีกรณีนักท่องเที่ยวมึนเมา ก็จะมีห้องพักคอยซึ่งจัดไว้ในโซนแยกจากโซนของนักท่องเที่ยวทั่วไป และทุกร้านก็ปฏิบัติตามมาตรการตามกฎหมายเคร่งครัด คือ ต้องไม่มีอาวุธปืน ไม่มียาเสพติด ไม่มีเด็กอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดเข้าใช้บริการ” นายอนุทินฯ กล่าวเน้นย้ำ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้มาตรวจดูความเรียบร้อย มาขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ทำตามกฎหมาย ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เราทำงานด้วยความสามัคคี เรามาตรวจติดตามเพื่อทำให้บ้านเมืองมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย หนุนเสริมการท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชน
ด้าน พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำขอความร่วมมือกำชับผู้ประกอบการได้เคร่งครัดในเรื่องการตรวจตรา ห้ามมีเด็ก เยาวชน อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าใช้บริการ ห้ามมีอาวุธปืน และห้ามมียาเสพติด ภายในสถานบริการ และจากการตรวจติดตามร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพบว่าสถานที่เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเสริมเศรษฐกิจให้กับคนไทย ทั้งนี้ ในด้านความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพร้อมในการร่วมดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ และขอย้ำมาตรการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คือ มาตรการ “10 รสขม” จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ 1 ร. คือ ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2 ส. คือ ไม่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร และไม่ขับรถย้อนศร 3 ข. คือ มีใบขับขี่, คาดเข็มขัดนิรภัย และไม่แซงในที่คับขัน และ 4 ม. คือ ไม่ขับขี่รถขณะเมาสุรา, สวมหมวกนิรภัย, ไม่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ปลอดภัย และไม่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ