เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เป็นผู้กล่าวปาฐกถาพิเศษสรุป ก่อนพิธีปิดการเสวนา ในหัวข้อ ‘’ Finance for Biodiversity: Towards a Nature-Positive Pathway “
เวทีนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย กองทุน AFD แห่งรัฐบาลฝรั่งเศส สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการสนับสนุนของ IUCN UN ESCAP ธนาคารแห่งประเทศไทย กลต. BOI ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ Global Compact Thailand ธนาคารกรุงไทย BEDO เป็นต้น นับเป็นเวทีที่วงการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและวงการการเงินการคลังทั้งในและระหว่างประเทศได้มาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวคิดกัน ทั้งนี้เพื่อระดมพลังเตรียมตัวสำหรับประกอบท่าทีไทยในการเข้าร่วมประชุมอนุสัญญาคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ หรือ COP 16 ที่จะมีขึ้นในปีนี้ที่ประเทศ โคลัมเบีย
เวที Finance for Biodiversity ครั้งนี้ จัดที่อาคาร C-ASEAN ถนนพระราม4 มีวิทยากรที่มีชื่อเสียงได้รับเชิญมาร่วมเวทีมากมาย ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญในประเทศและต่างประเทศ
โดยในการกล่าวปิดท้าย นายวีระศักดิ์ได้กล่าวถึงความจำเป็นที่ภาคส่วนอื่น นอกวงการอนุรักษ์โดยเฉพาะภาคการเงินและธุรกิจที่ควรจะเข้ามามีส่วนร่วมขับเคลื่อนเพื่อการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพเอาไว้ให้ได้ เพราะไม่มีกิจกรรมใดของมนุษย์ที่สามารถดำเนินต่อได้ ถ้าวงจรของระบบนิเวศน์จะล่มสลายหรือขาดตอนลง
‘’…เราอาจใช้ดาวเทียมตรวจจับอุณหภูมิ ตรวจจับการรั่วไหลของก๊าซเรือนกระจก ไฟป่า หรือการใช้ผิวดิน สำรวจทรัพยากรใต้ดินได้ แต่ดาวเทียมไม่อาจตรวจจับการขาดตอนลงของระบบนิเวศน์การพึ่งพากันของเผ่าพันธุ์พืชหรือเผ่าพันธุ์สัตว์ใดๆได้ ดังนั้นเราจึงไม่อาจรู้เลยว่า tipping points ของปัญหาการสูญเสียเผ่าพันธุ์ต่างๆในธรรมชาติจะอยู่ที่จุดไหน
หากผึ้งหายไปหมด สัตว์และมนุษย์แทบจะสูญพันธุ์ตามไปในเวลาไม่ถึง 6 ปี เพราะทุกชีวิตบนแผ่นดินทุกทวีปอาศัยแหล่งอาหารจากพืชมาเป็นจุดเริ่มทั้งสิ้น
ถ้าวาฬในมหาสมุทรสูญพันธุ์ไปจากที่เหลือล้านตัวสุดท้าย แพลงตอนพืชที่ได้ปุ๋ยจากมูลวาฬอันอุดมด้วยแร่ธาตุที่แพลงตอนต้องใช้ประกอบการสังเคราะห์แสง แปลงคาร์บอนไดออกไซด์กลับมาเป็นออกซิเจนกว่า 65% บนโลกใบนี้ก็จะหายไป แล้วสัตว์และมนุษย์จะหายใจได้อย่างไร…‘’นายวีระศักดิ์กล่าวในที่สุด
ปิดท้ายด้วยคำกล่าวที่เรียกเสียงปรบมืออย่างยาวนานก่อนจบการปาฐกถาว่า
‘’… How do you put a price on saving the earth
We are putting trillions of dollars to rescue our economies
Our countries
Our communities
But healthy proporous communities also depend on a healthy planet
The food we eat
The water we drink
The air we breathe
They all depend on
Nature
So how do we ensure the investments we make now
Are good for the future
If we dug into the numbers creatively and bravely,
We can have great thriving economies and a thriving planet
But we need some changes
We will have to stop investing in ways that degrade the planet
Get creative with new investments
from both the public and private sectors
And we have to spend the money we have more efficiently
Putting our money to work for People and Nature
We can’t return to business as usual
It’s time to do better
It’s time to be better
It’s time for nature
And the time is Now…”