“บิ๊กเกรียง” นั่งเก้าอี้รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 สัญญาจะทำทุกอย่างให้วุฒิสภาเป็นที่ยอมรับ
วันนี้ 23 กรกฎาคม 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว. ที่อาวุโสที่สูงสุด ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ประชุมในวันแรก หลังจากเลือกประธานวุฒิสภาแล้วนั้น เข้าสู่วาระเลือกรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 โดยนายบุญส่ง น้อยโสภณ ส.ว. กลุ่ม 2 กฎหมายและยุติธรรม เสนอชื่อ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ส.ว. กลุ่ม 1 บริหารราชการแผ่นดิน
นายสหพันธ์ รุ่งโจนพณิชย์ ส.ว.กลุ่ม 10 กลุ่มประกอบกิจการอื่น เสนอชื่อ นายนพดล อินนา ส.ว.กลุ่ม 8 สิ่งแวดล้อม
นางสาวนิชาภา สุวรรณนาค ส.ว.กลุ่ม 5 อาชีพทำนา เสนอชื่อ นายปฏิมา จิระแพทย์ ส.ว.กลุ่ม 8 สิ่งแวดล้อม
นางสาวมณีรัตน์ เขมะวงศ์ ส.ว.กลุ่ม 9 ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม เสนอชื่อ นายแล ดิลกวิทยรัตน์ ส.ว.กลุ่ม 7 พนักงานหรือลูกจ้างของบุคคล ทำให้มีผู้ชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ทั้งหมด 4 คน
จากนั้นเป็นการกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ตามลำดับที่จับสลากได้ ซึ่งเริ่มจาก พล.อ.เกรียงไกรกล่าวว่า ตนยึดมั่นและมีความจงรักภักดี รวมถึงจะธำรงไว้ซึ่งการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เทิดทูน ปกป้องสถาบัน จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ตนขอให้ความเชื่อมั่นกับ สว. ที่จะทำงานการเมืองและองค์กรอิสระ ที่เที่ยงธรรม เป็นกลางเป็นที่พึ่งของประชาชน และให้วุฒิสภานี้จะเป็นหลักดำเนินนการต่อชาติบ้านเมือง นอกจากนั้นแล้วสว.ท่ีมาจากหลากหลายกลุ่มอาชีพ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ตนขอให้มั่นใจในเกียรติของสว.ที่จะรับฟังความคิดเห็นของทุกคนทำงานในกิจการที่เกี่ยวข้องกับ สว.อย่างเท่าเทียมกัน เคารพเสียงส่วนใหญ่ ไม่เพิกเฉยเสียงน้อยที่เห็นต่าง
“ผมยืนยันว่าทำงานทุกอย่างเพื่อให้ สว.เป็นที่ยอมรับเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการทำงาน หรือรับฟังความเห็นจากประชาชนทางตรงและทางอ้อม ผมขอสัญญาจะทำสิ่งที่ดีงามให้สว.เป็นสภาทรงเกียรติ มีสว.จรรโลงความดีงาม เกิดประโยชน์ของประเทศต่อไป” พล.อ.เกรียงไกร กล่าว
จากนั้นเวลา 13.45 น. เป็นการลงคะแนนลับด้วยการเข้าคูหาเขียนชื่อบุคคลที่จะเลือก โดยขานชื่อเรียงตามตัวอักษร ผลปรากฎว่า พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ได้ 150 คะแนน นายนพดล ได้ 27 คะแนน นายแล ได้ 15 คะแนน นายปฏิมา ได้ 5 คะแนน งดออกเสียง 1 บัตรเสีย 2 งดออกเสียง 1
หลังนับคะแนนเสร็จสิ้น พล.ต.ท.ยุทธนา แจ้งผลการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ว่า พล.อ.เกรียงไกร ได้150 คะแนน ถือว่าได้คะแนนสูงสุดไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกที่ประชุม ที่มาจำนวน 200 คน จึงถือว่า พล.อ.เกรียงไกร ได้รับเลือกเป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง
สำหรับพล.อ.เกรียงไกร เกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2506 ปัจจุบันอายุ 61 ปี ที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 22 (ตท.22) และนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 33 (จปร.33) เริ่มรับราชการครั้งแรกที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 25 (ร.25 พัน 3) ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี
พล.อ.เกรียงไกร มีการทำงานที่สำคัญ ชีวิตราชการเติบโตอยู่ในกองทัพภาคที่ 4 มาตลอด ก่อนจะขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 เมื่อ 1 ต.ค.2563 โดยรับภารกิจใหญ่ดับไฟใต้ รวมถึงการปราบปรามยาเสพติด และเคยได้รับการแต่งตั้งจากนายอนุทินให้ดำรงตำแหน่งประธาน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2566
พล.อ.เกรียงไกร ได้ลงสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567 ในกลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง โดยได้รับเลือกมาเป็นลำดับที่ 1 และได้รับการเสนอชื่อจากกลุ่ม สว.สายสีน้ำเงิน ให้เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง