“นุ๊ก สุทธิดา” เปิดใจ สู้”มะเร็งไทรอยด์” 4 ปี เตรียมบินรักษาต่อเมืองจีน

“นุ๊ก สุทธิดา” เปิดใจเล่าถึงประสบการณ์ป่วยมะเร็งไทรอยด์ ก่อนเลือกไปรักษาส่วนที่เหลือ ณ โรงพยาบาลสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจว ประเทศจีน

วันที่ 28 ก.ย.67 ที่สมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย อาคารกรมการแพทย์ 6 (DMS.6) กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจว จัดกิจกรรมบรรยายทางวิชาการให้กับบุคคลทั่วไปในหัวข้อ “การรักษามะเร็งแบบบูรณาการ” โดยนอกจากจะได้รับฟังสาระความรู้และวิธีการรักษาโรคมะเร็งจาก ศ. เผิงเสี่ยวซือ ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งมากว่า 20 ปีของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจวแล้ว

งานนี้ยังมีอดีตดารานักแสดงชื่อดัง “นุ๊ก สุทธิดาเกษมสันต์ ณ อยุธยา” มาเปิดใจบอกเล่าประสบการณ์ป่วยเป็นมะเร็งไทรอยด์ จนถึงการมารับเป็นทูตสัมพันธ์ประจำโรงพยาบาลสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจว ว่า ตนเองเป็นมะเร็งไทรอยด์ผ่านมาประมาณ 4 ปี จริงๆแล้วตนไม่ได้นับเลย เหมือนเราทำใจอยู่กับเขาได้ผ่านมาแล้วก็รู้สึกเพลินเลย ตอนนี้ที่ทำอยู่ก็คือต้องตรวจเลือดทุกๆ 3 เดือน และทำอุลตร้าซาวด์ที่ก้อนมะเร็งที่ยังหลงเหลืออยู่ทุกๆ 6 เดือน

หลายคนคงคิดว่าคนที่เป็นมะเร็งแล้วจะต้องตาย ก็ในจำนวนนั้นที่มีความรู้สึกว่าเป็นมะเร็งแล้วต้องตาย บางคนบอกว่าเป็นมะเร็งตายเร็วกว่าเป็นเอดส์ซะอีก ได้ยินแล้วก็ใจหาย ซึ่งทุกคนเกิดมาก็ล้วนแต่ต้องตาย แต่การตายนั้น ไม่ว่าเราจะฝึกจิตปฏิบัติมาแค่ไหนศาสนาใดก็ตาม มาอยู่ปลายจมูก ใจจะแว๊บทุกคน ตอนพูดวันนี้ก็ยังขนลุกอยู่เลย ตัวตนมีความแฮปปี้ขนาดนี้แต่จริงๆแล้ว เราจะดำเนินชีวิตที่เหลืออย่างไรเท่านั้นเอง

วันแรกที่คุณหมอตรวจเจอแล้วจะบอกให้ตนทราบ คุณหมอจะแจ้งผลตรวจให้เราทราบก็ต่อเมื่อผลตรวจชิ้นเนื้อออกมาแล้ว คุณหมอที่ส่งไปก็จะดูออกตั้งแต่แรกแล้วว่ามันต้องเป็นเซลมะเร็ง เห็นสีหน้าของคุณหมอมันก็บ่งบอกเราได้ในตัวอยู่แล้ว ด้วยความที่ตนเป็นนักแสดงสังเกตเห็นสีหน้าคุณหมอก็รู้ว่าน่าจะเป็นอะไร จึงลองถามคุณหมอแบบขำๆ ดูอีกที ถ้าถามแล้วคุณหมอไม่ขำด้วยก็น่าจะคาดการณ์ได้ ถามว่า “ใช่ ใช่มั้ยค่ะ?!!” หมอนิ่งแล้วตอบเป็นวิชาการว่า“ ต้องเอาผลชิ้นเนื้อไปตรวจก่อน หลังจากออกจากห้อง lab แล้วจึงจะสามารถบอกได้“

ทำให้เรามั่นใจว่าเราต้องเป็นแน่นอน พอได้ยินคำตอบของหมอทำให้ร่างกายเรารู้สึกร้อนต่อไปทั่วทุกขุมขน ขนนี้ลุกไปทั่วหมดทั้งตัวเลย ขณะนั้นกำลังนอนทำอุลตร้าซาวด์อยู่บนเตียง เราไปทางปลายเตียงเห็นแอร์เครื่องมันรู้สึกว่ามันเสียงดังมาก แต่ในใจเรากลับเงียบเหมือนกับถูกโยนลงเรือทิ้งไว้ในทะเล มันรู้สึกสุดเคว้งคว้าง หลังจากนาทีนั้นผ่านไป 100 คำถามก็ผ่านเข้ามา เชื่อว่าหลายหลายคนที่เป็นมะเร็งอยู่น่าจะมีฟิวนี้เหมือนกับตน

ต่อให้เราอยู่กับมันแล้วเรามีความรู้สึกชิวขนาดไหนก็ตาม เชื่อว่าเมื่อแต่ละคนย้อนกลับไปก็ยังมีความรู้สึกอารมณ์นี้อยู่ แต่ตอนนี้ตนรู้สึกแฮปปี้

100 คำถามที่เข้ามา เช่น ห่วงคนข้างหลังไป 99 คำถาม และคำถามสุดท้ายมันจะเจ็บไหมนะตอนเราตาย ? ลมหายใจสุดท้ายเราจะไปยังไง ?!! เรานั่งตอบตัวเองนะนาทีที่ยังนั่งอยู่บนเตียงนั้น


เห็นใครๆ ที่เป็นมะเร็งแล้วเสียชีวิตก็จะบอกว่า จากไปอย่างสงบนะ เพราะทุกคนก็ต้องจากไป ทำใจทำตรงนี้ได้ก็รู้สึกอยู่กับมันได้ รู้สึกว่าชีวิตมีความสุขขึ้น ซึ่งเรามองเห็นความดีที่เป็นมะเร็งมากกว่าข้อเสีย มันก็ทำให้มีความสุขขึ้น

เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกใช้ชีวิต ที่เหลืออยู่ของเรา ต่อให้คุณหมอจะบอกว่าเราเหลืออีกสามเดือนห้าเดือนหรือหนึ่งปีหรือกี่ปีก็ตามเรามีสิทธิ์เลือก วิธีการดีไซน์ออกแบบ การใช้ชีวิตที่เหลือของเราอย่างไร เพราะฉะนั้น จะอยู่อย่างทุกข์ทนหรือจะอยู่อย่างมีความสุข ในขณะเดียวกันเรายอมรับในเรื่องความตายได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะนอนรอความตาย อยู่บนเตียงเรามีสิทธิ์ที่จะสู้เหมือนกัน


หลังจากทราบผลว่าเป็นมะเร็ง ก็เข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างรวดเร็ว โดยมะเร็งไทรอยด์การรักษาก็ต้องกลืนแร่ ต้องมีการจองห้อง เพราะปัจจุบันในผู้ป่วยมะเร็ง ไทรอยด์มีจำนวนมาก ตลอดจนต้องผ่าตัดเพราะรู้ตัวแล้วว่ายังไงเราก็ต้องรักษา ให้หายแล้วออกมาใช้ชีวิตออกมาทำงาน ดูแลลูกจัดการภาระต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ไม่อยากให้กระบวนการรักษามาอย่างชักช้า

แต่หกเดือนที่ต้องไปทำอุตร้าซาวด์ คุณหมอบอกว่ามันโตขึ้น 1 มิลลิเมตรนะ แต่ในใจเรามีความรู้สึก ทำจิตมานิ่งแต่มันก็ยังมีการแกว่ง นี่แหละคือข้อดีของความตายที่อยู่ปลายจมูก ทำให้เราได้ฝึกจิตทุกนาที

“คุณพ่อนุ๊ก ก็เป็นมะเร็งลำไส้ อยู่ในกระบวนการรักษาเหมือนกัน โชคดีที่ลูกสาวชิงเป็นมะเร็งก่อนคุณพ่อ คุณพ่อเห็นเราชิวมากก็มีกำลังใจที่จะสู้ ทำให้คุณพ่อมีความเข้มแข็งทางด้านจิตใจเป็นอย่างมาก”

ส่วนเชื้อมะเร็งที่ยังหลงเหลืออยู่ ตนก็อยากจะได้ชื่อว่ารักษามะเร็งจนหายป่วยร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ศึกษาไปเรื่อยเรื่อยจนมาเจอโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่คุยกับคุณหมอแล้วรู้สึกสบายใจ ให้คำแนะนำให้ทางเลือกให้รายละเอียดในการที่จะรักษา ค่อนข้างเยอะและชัดเจน ก็คือโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่สแตนฟอร์ดกว่างโจวนี่เอง ใครที่เป็นมะเร็งมาฟังวันนี้ ต่อไปเราก็จะต้องไปรักษาที่นี่ด้วยกัน ตนเองก็อยากจะรักษามะเร็งให้ออกไปจากร่างกายให้หมด หลังจากนั้นก็จะพาคุณพ่อไปทำการรักษาต่อที่นี่ด้วย.

ฮอนด้า แอคคอร์ด

ที่สุดแห่งเทคโนโลยีการขับเคลื่อนระดับพรีเมียม