วันนี้ (7 ต.ค.67) นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่าขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.เชียงใหม่ และ เชียงราย เริ่มคลี่คลาย โดย เจ้าหน้าที่กรมการทหารช่าง อุดแนวร้ำได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนเรื่องอารหารก็ไม่ได้ขาดแคลน หากขาดแคลนจะดึงมาจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย
สำหรับกระแสข่าวประชาชนบางส่วนในจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้กินข้าวเพราะการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐเข้าไม่ถึงนั้น หากทราบแล้วก็จะรีบจัดการ ซึ่งการเข้าไม่ถึงมีความเป็นไปได้ เพราะน้ำมาเร็วมาก มาทุกทิศทาง แต่ก็พยายามเต็มกำลัง ซึ่งไม่ใช่เป็นปัญหา พร้อมกล่าวขอโทษที่ยังทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ และจะพยายามเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุด พร้อมย้ำว่าเสบียงอาหารในภาพรวมไม่มีปัญหาเลย อาจมีบางส่วนที่ยังติดขัดอยู่บ้างเพราะน้ำท่วมทั้งจังหวัด ซึ่งเราก็ดูดาวเทียมและทุกส่วนก็พยายามแก้ไขปัญหากันอยู่แล้ว ยืนยันว่าเราพยายามรับฟัง แก้ไขปัญหาและทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ขณะนี้ อยู่ระหว่างการจัดการปัญหาเรื่องโคลน ซึ่งหลายส่วนสามารถเคลียร์ออกมาได้แล้ว ส่วนพื้นที่เชียงใหม่ ไม่น่าเป็นห่วงเพราะฝนหยุดตกแล้ว รอแค่น้ำหลากออกไป ซึ่ง ขณะนี้ได้มีการเพิ่มรถยกสูงขนาดใหญ่เข้าไปช่วยลำเลียงคนออกจากพื้นที่ คาดว่าใน 2 วันนี้ถานการณ์จะคลี่คลาย ส่วนการขนย้ายช้างและคนที่อยู่รอบลำน้ำปิง ได้นำออกมาหมดแล้ว
ส่วนพื้นที่จังหวัดนนทบุรีที่ แม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มเอ่อเข้าท่วมตามแนวตลิ่งบ้านเรือนประชาชนนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้มีการประกาศเตือนเบื้องต้นแล้ว และมีการจัดสรรการระบายน้ำ ไม่ให้มากจนเกินไป แต่ยอมรับว่าอาจจะมีผลกระทบบ้าง ทั้ง จังหวัดอยุธยาพื้นที่อำเภอบางบาลและโผงเผลง หรือในเขตปทุมธานีและนนทบุรี เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งจังหวัดอยุธยาก็เป็นพื้นที่นอกคันกั้นน้ำด้วย เมื่อเกิดน้ำท่วมก็ต้องมีอาการเยียวยาไป
ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาไม่สามารถแก้ได้ทั้งหมดเพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องแก้ทั้งระบบ ทั้งการเคลื่อนย้ายประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งงบประมาณหนึ่งปีในการ ดูแลเรื่องน้ำท่วม เป็นแสนล้าน ซึ่งพรุ่งนี้จะมีการรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า พลเอกณัฐพงษ์ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนางสาวธีรารัตน์ สำเร็จวานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำงานอย่างเต็มที่ มาทั้งจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ โดยพรุ่งนี้ตนจะประชุมเพื่อสรุปสถานการณ์อีกครั้ง เพื่อเตรียมการรับมือหลังน้ำลด หลังได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสำรวจบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม ยอมรับว่าหลักเกณฑ์เยียวยาประชาชนที่จะปรับเป็น 9,000 บาททุกครัวเรือนนั้น มีปัญหา ที่ยากลำบากเรื่องระเบียบไม่รวดเร็วอย่างที่ใจอยากได้ ซึ่งพรุ่งนี้จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อทำเรื่องอนุมัติย้อนหลัง เพราะมองว่าประชาชนกำลังเดือดร้อน ไม่ควรพูดเรื่องหลักเกณฑ์ 3,000 5,000 7,000 แล้ว เพราะน้ำเข้าก็ท่วมทั้งบ้าน ซึ่งในส่วนนี้ต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ระเบียบกฎเกณฑ์อีกหลายอย่าง เพราะตอนนี้มีเพียงหลักเกณฑ์เก่าซึ่งจะพยายามให้กระทรวงมหาดไทย สั่ง ปภ. เร่งจ่ายดูแลประชาชนไปพลางก่อน และหลังจากนี้จะหารือกับกฤษฎีกาต่อไป
ส่วนเงินเยียวยา ที่ถูกมองว่าไม่สมดุลกับความเสียหายนั้นนายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่สมดุลอยู่แล้ว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมาและเป็นเหตุการณ์ที่โคลน สิ่งที่วางไว้เป็นกฎเกณฑ์เก่า ซึ่งต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตไว้