(15 ต.ค. 67) ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ผศ. ดร.เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรค กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการ ‘พระแม่พาติว’ ว่า ด้วยความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่ยังคงมีอยู่ บางพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ พรรคประชาธิปัตย์ จึงทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการศึกษา และเป็นตัวกลางเพื่อให้นักเรียนได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ให้ความสำคัญและสนับสนุนโครงการด้านการศึกษามาโดยตลอด อาทิ โครงการกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา โครงการนม รร. โครงการอาหารกลางวันและอื่น ๆ อีกมากมาย
โดยได้จัดโครงการ ‘พระแม่พาติว’ ขึ้น เพื่อให้นักเรียนจากทั่วประเทศสามารถเข้าร่วมติวสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ผ่านทางระบบ Online และOnsite ในพื้นที่ที่พรรคมีความพร้อมทั่วประเทศ เมื่อจบโครงการแล้วผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับประกาศนียบัตรสำหรับนำไปประกอบการทำPortfolio อีกด้วย พร้อมกันนี้ขอขอบคุณ ผศ. ดร.กฤษฏา อัศวสกุลเกียรติ รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการและนโยบายชี้นำสังคม และที่ปรึกษาโครงการพระแม่พาติว ที่ช่วยประสานงานติวเตอร์ มาให้ความรู้น้อง ๆ ในครั้งนี้ด้วย
จากนั้น ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ ‘พระแม่พาติว’ โดยได้กล่าวช่วงหนึ่งว่าการลงทุนทางการศึกษาจะเป็นการให้สมบัติที่มีค่าที่สุดกับลูกหลาน กับเยาวชนของเรา โครงการพระแม่พาติว เป็นโครงการที่
1. “สร้างโอกาส” ให้กับเยาวชนให้ได้มาพบกับติวเตอร์ เพราะเพียงเด็กได้พบกับติวเตอร์ก็มีแรงบันดาลใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่วิเศษและมีคุณค่า
2. “เพิ่มโอกาส” ต้องยอมรับว่า วันนี้การศึกษายังไม่มีความเท่าเทียมกันทั้งประเทศ ยังมีเด็ก เยาวชนจำนวนหนึ่งที่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ทุกรูปแบบ และมีเด็กอีกจำนวนหนึ่งที่เข้าไม่ถึงการศึกษาเลยสักรูปแบบ ซึ่งในการเข้าถึงโอกาสแต่ละอย่างล้วนมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นโครงการนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันอีกด้วย ทั้งยังเป็นอีก 1 ทางเลือกในการเพิ่มโอกาสให้กับเด็กและเยาวชน
3. “ให้โอกาส” ทางการศึกษา ซึ่งโครงการมีรูปแบบเพื่อเข้ารับการติวเข้ามหาวิทยาลัยที่เปิดกว้าง ทั้งแบบ Online ทั้ง Onsite
“เราสร้างโอกาส เราเพิ่มโอกาส และเราให้โอกาส ผมได้ปรึกษาเตรียมงานกับ ดร.เจนจิรา มาประมาณ 3-4 เดือน เพราะเขาอยู่ในวงการศึกษา ให้เด็กๆ เยาวชน คนรุ่นหลังเขาแสดง ให้อิสระอย่างเต็มที่ และให้ไปคุยกับติวเตอร์ คุยกับอาจารย์ สถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ว่า วันนี้ความตั้งใจของพรรคประชาธิปัตย์จริงๆ ไม่มีการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องเราต้องการสร้างจริงๆ และการสร้างที่ดีที่สุดก็คือการสร้างอนาคตให้กับเด็กและเยาวชนของเรา” ดร.เฉลิมชัย กล่าวและยังเพิ่มเติมอีกว่า
เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้สร้างโอกาส เพิ่มโอกาส และให้โอกาส กับเด็ก เยาวชนแล้ว จึงอยากขอให้เด็ก และเยาวชนทุกคนคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้ โดยเชื่อว่าผลที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้จะเป็นคำตอบให้กับโครงการพระแม่พาติว แต่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือทั้งจากติวเตอร์ อาจารย์ สถาบันการศึกษาทุกแห่ง ตลอดจนพ่อแม่ ผู้ปกครองและตัวเด็กเอง เพราะทั้งหมดคือหัวใจของโครงการ ‘พระแม่พาติว’ ขอให้พวกเราเดินไปด้วยกัน เดินไปพร้อม ๆ กัน
ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ย้ำในตอนท้ายว่า โครงการ ‘พระแม่พาติว’ ถือเป็นการนับหนึ่งครั้งแรก และขอให้มั่นใจว่าจะมีครั้งที่ 2 – 3 – 4 ต่อไป เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนว่า พรรคฯ ให้ความสำคัญกับการศึกษาอย่างแท้จริง ไม่ได้สร้างภาพ ไม่ได้เป็นนักการเมืองที่มาทำเพื่อหาเสียง แต่ทำเพื่อแสดงจุดยืนและหลักการของเรา
“สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคนๆ หนึ่งนั้น ไม่ได้หมายถึงท่านเห็นโอกาส ไม่ได้หมายถึงมีคนให้โอกาส หรือไม่ได้หมายถึงท่านสร้างโอกาสขึ้น แต่ความสำเร็จจริงๆ อยู่ที่ว่าท่านคว้าโอกาสที่มาได้หรือไม่ เช่นเดียวกันวันนี้ผมอยากเห็นน้องๆ ที่เข้าร่วมโครงการได้คว้าโอกาสที่โครงการพระแม่พาติวได้สร้างให้กับพวกเราทุกคน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
อนึ่งโครงการ ‘พระแม่พาติว’ ที่พรรคประชาธิปัตย์จัดขึ้น เป็น 1 ในการนโยบายเพิ่มโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้กับเยาวชนที่เป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 5 – 6 ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ให้มีโอกาสอย่างเท่าเทียมในการเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบ TGAT • TPAT และการทำ Portfolio เพื่อเข้าสู่มหาวิทยาลัยตามฝัน ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15-21 ตุลาคม 2567 ณพรรคประชาธิปัตย์ สำนักงานใหญ่ ถนนพระราม 6 กรุงเทพฯ ทั้งในรูปแบบ online และ onsite ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
โดยพิธีเปิดโครงการ ‘พระแม่พาติว’ ในวันนี้ นอกจากมีผู้ปกครอง และเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมติวสดแบบ Onsite ที่สำนักงานใหญ่พรรคประชาธิปัตย์แล้ว ยังมี กรรมการบริหาร สส. ตลอดจนอดีต สส. เข้าร่วมพิธีเปิดอย่างคับคั่ง อาทิ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช นายไชยยศ จิรเมธากร นายสมบัติ ยะสินธุ์ ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายนริศ ขำนุรักษ์ นายนราพัฒน์ แก้วทอง นต.สุธรรม ระหงษ์ นายอลงกรณ์ พลบุตรนางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ นายกุลเดช พัวพัฒนกุล นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด นายธนิตพล ไชยนันทน์ นายชนินทร์ รุ่งแสง นายสราวุธ อ่อนละมัย นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท เป็นต้น