จังหวัดแม่ฮ่องสอน หารือแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณีกลิ่นยางมะตอยรบกวน หลังจากราษฎรบ้านขุนกลาง ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 เวลา 13.00 น. ที่ ห้องประชุมผดุงม่วยต่อ ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นาย ชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณีกลิ่นยางมะตอยรบกวน โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
ด้วยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์จาก กำนันตำบลปางหมู ซึ่งได้รับเรื่องจากชาวบ้าน บ้านขุนกลาง หมู่ที่ 11 ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสองสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์และละอองของควันที่เกิดจากการเผายางมะตอย ของบริษัท วิชิตพงษ์การโยธา จำกัด อีกทั้งปัญหาดังกล่าวเกิดมายาวนานกว่า 20 ปี ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าของที่ดินที่ บริษัท วิขิตพงษ์การโยธา จำกัด เช่า ได้เคยรับปากกับชาวบ้านว่าจะไม่ต่อสัญญาให้กับบริษัท วิชิตพงษ์การโยธา จำกัด เจ้าของที่ดินได้เข้าร่วมตรวจสอบกับชาวบ้าน แต่ปรากฏว่ายังมีการต่อสัญญาเช่ากันอีก ทั้งนี้ชาวบ้านมีความประสงค์ให้โรงงานดังกล่าวย้ายออกนอกพื้นที่ของบ้านขนกลาง หมู่ที่ 11 โดยเร่งด่วน
โดยการประชุมในครั้งนี้เพื่อหารือพิจารณาดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ บ้านขุนกลาง หมู่ที่ 11 ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจน
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ สืบพงศ์เอื้อ กำนันตำบลปางหมู และนายพินิจ ใสสว่าง สมาชิกอบต.ปางหมู นายพิริยะ ตวงลาภทวีกิจ สมาชิก อบจ.แม่ฮ่องสอน นำราษฎรในหมู่บ้านขุนกลาง จำนวน 10 คน ไปยื่นหนังสือร้องเรียนของความเป็นธรรมต่อ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีนายประเสริฐ ประดิษฐ์ ในนามประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน (แทนนายพิฆเนศ ต๊ะปวง ผู้ตรวจราชการการสำนักนายกรัฐมนตรี) เป็นผู้รับมอบหนังสือร้องเรียนดังกล่าว เนื่องจากราษฎรในหมู่บ้านได้รับผลกระทบจากการผลิตแอสฟัสติกส์คอนกรีต ที่มีการเผายางมะตอยซึ่งส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง จนราษฎรบางรายมีอาการแพ้จนต้องหนีไปอยู่ที่อื่นเมื่อมีการเผายางมะตอย
ทั้งนี้ ราษฎรในหมู่บ้านขุนกลาง หมู่ 11 ต.ปางหมู จำนวน 2,000 รายได้รับผลกระทบจากการเผายางมะตอยของบริษัท วิชิตพงษ์การโยธา จำกัด ทำให้ควันลอยมากระทบระบบหายใจ ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก อีกทั้งปัญหานี้เกิดมายาวนานกว่า 20 ปี ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด เจ้าของที่ดิน ที่ให้ บริษัท วิชิตพงษ์การโยธา จำกัด เช่า ได้เคยรับปากกับชาวบ้านว่า จะไม่ต่อใบอนุญาตให้กับบริษัทวิชิตพงษ์การโยธา จำกัด อีกทั้งเนื่องจากเจ้าของที่ดินได้เข้ามาตรวจสอบกลิ่นเหม็นของการเผายางมะตอยแล้ว แต่ปรากฏว่ายังมีการต่อสัญญาเช่ากันอีก จากปัญหาดังกล่าวชาวบ้านบางส่วน ไม่สามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่ได้ขณะที่มีการเผาต้องหนีไปอาศัยบ้านญาติอยู่ในเขตเทศบาล บางบ้าน ที่ไม่สามารถออกจากบ้านไปได้ ก็ต้องทนดมกลิ่นของยางมะตอยซึ่งเหม็นอย่างรุนแรง
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 ทางราษฎรในหมู่บ้านขุนกลาง ฯ ได้มีการจัดประชุมหารือเรื่องผลกระทบจากกลิ่นการเผายางมะตอย ที่วัดกุงเปา โดยมีตัวแทนของฝ่ายปกครองอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน มาร่วมรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้มีการยืนยันว่า พอเจ้าหน้าที่จาก อบต.ปางหมู ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องกลิ่นเหม็นจากการเผายางมะตอย ทางโรงงานจะหยุดดำเนินการทันที เหมือนรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการมาตรวจสอบทุกครั้ง
——————————–
ทศพล / แม่ฮ่องสอน
