“ชัยวุฒิ” และทีมงาน 5 คน พร้อมปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข กักตัว 14 วันแม้ผลตรวจไม่พบเชื้อ หลังบินเตรียม”ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” นั่งร่วมเที่ยวบินลำเดียวกับผู้ป่วยโควิด ยืนยัน ทำงานออนไลน์งานกระทรวงไม่มีปัญหา
วันที่ 1 ก.ค. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ตนได้นั่งโดยสารสายการบิน Vietjet เที่ยวบิน VZ314 จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังจังหวัดภูเก็ตเพื่อไปดูความพร้อมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จากนั้นเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ตนและคณะได้เดินทางมาภูเก็ตอีกครั้งเพื่อจะรอร่วมคณะนายกรัฐมนตรีเพื่อเปิดงานภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในวันที่ 1 ก.ค. แต่ปรากฏว่า หลังจากถึงภูเก็ตได้รับแจ้งจากสายการบินว่า ตนเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากในเที่ยวบินดังกล่าวที่ตนโดยสารมาเมื่อวันที่ 25 มิ.ย มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังตน 2 ที่นั่ง ทำให้ตนและคณะทำงาน 5 คนไปเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต แม้ผลการตรวจจะเป็นลบไม่พบเชื้อทุกคน แต่ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขคือ กักตัว 14 วัน ทำให้ไม่สามารถไปร่วมงานภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์กับนายกฯ ในวันที่ 1 ก.ค.ได้
“แม้ส่วนตัวจะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมงานสำคัญในการเปิดโครงการภูเก็ต sandbox ร่วมกับนายกรัฐมนตรีและครม.ก็ตาม แต่ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่เพิ่มความเสี่ยงให้กับคนอื่น และระหว่างกักตัวยังสามารถปฏิบัติงานประชุมต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ได้”
นายชัยวุฒิ กล่าวในที่สุด
นายชัยวุฒิ ยืนยันว่า การกักตัวไม่กระทบต่อการทำงานของกระทรวงดีอีเอส และไม่ถือเป็นความโชคร้ายและหากครบ 14 วันที่จะต้องไปตรวจหาเชื้ออีกครั้ง หากพบว่าผลปรากฏเป็นลบอีก จะเป็นการพิสูจน์ว่า หากเราสวมหน้ากากตลอดเวลาบนเครื่องบินจะสามารถช่วยป้องกันโรคได้ เนื่องจากตนและคณะสวมหน้ากากตลอดเวลา
นอกจากนี้คณะแพทย์ ยังระบุว่ามีโอกาสเสี่ยงน้อย เพราะทุกคนสวมหน้ากากตลอดเวลา อีกทั้งทีมงานทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว