วันนี้ (1 พ.ย.67) นายสุนทร บุญยิ่ง หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอรัปชั่น ยื่นหนังสือต่อสำนักคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบการลาออกของนายกองค์บริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในหลายจังหวัดลาออกก่อนครบวาระ เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ เป็นกรณีที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ปี 2560 หรือไม่
นายสุนทร ยกตัวอย่างกรณีนายก อบจ.ขอนแก่นได้ยื่นหนังสือลาออกโดยอ้างสาเหตุว่าป่วยและเมื่อลาออกไปแล้วก็กลับมาลงรับสมัครเลือกตั้งใหม่ ข้อมูลเบื้องต้นพบยังมีอีกหลายจังหวัดที่ทำลักษณะเช่นนี้เช่นปทุมธานี อุทัยธานี ชัยนาท และราชบุรี พร้อมตั้งคำถามว่ามีวาระแอบแฝง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ เพราะการกระทำเหล่านี้ทำให้รัฐต้องเสียงบประมาณจัดการเลือกตั้งซ่อมอย่างน้อย 2 ครั้ง เสียงบประมาณ 2 ครั้งโดยใช่เหตุ จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบใน 3 ประเด็น ดังนี้
1.ขอให้ตรวจสอบการลาออก และหนังสือลาออกจากตำแหน่งของนายก อบจ.ที่ลาออกก่อนครบวาระว่า การขอลาออกเป็นเท็จ หรือเป็นเหตุที่ไม่สมควร เพื่อให้เกิดการจัดเลือกตั้งใหม่หรือไม่
2.ขอให้ตรวจสอบการลาออกก่อนครบวาระว่า เป็นกรณีมุ่งหวังต่อประโยชน์การเมืองหรือไม่
3.ขอให้ตรวจสอบการลาออกก่อนครบวาระว่า เป็นกรณีที่สิ้นเปลืองเงินแผ่นดินโดยไม่สมควรหรือไม่ เป็นไปตามแบบแผนปฏิบัติตามกฏหมายและไม่คุ้มค่าต่อเงินแผ่นดิน ซึ่งขัดต่อ พ.ร.ป. ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2561 หรือไม่
ก่อนที่จะเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยว่า กรณีดังกล่าวเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายสุนทร กล่าวต่อถึงกรณีใบลาออกจากตำแหน่งของนายกอบจ.ขอนแก่นที่มีการลาออกก่อนครบวาระ โดยอ้างว่าป่วย เป็นการป่วยจริงหรือไม่ เพราะได้กลับมาสมัครรับเลือกตั้งใหม่ ทำให้รัฐต้องเสียงบประมาณไป 2 ครั้ง ครั้งละ 92 ล้านบาท จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบกรณีดังกล่าวด้วย
สำหรับการแก้ปัญหาดังกล่าว นายสุนทร มองว่าจะต้องแก้ที่กฎหมายการปกครองส่วนท้องถิ่น กำหนดกฎเกณฑ์ให้ชัดเจนกว่านี้ เพราะถือว่าไม่ถูกต้อง กฎหมายตัวรองต้องบัญญัติให้ชัดเจนถึงเจตนารมณ์ การเลือก อบจ.ในจังหวัดอื่น ๆ ด้วย