กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.)
ภายใต้อำนวยการของพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล, พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง.ผบก.ทล, พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ปฏิบัติราชการแทน.รอง.ผบก.ทล.,พ.ต.อ.สาธิต สมานภาพ ผกก.5 บก.ทล , พ.ต.ท.ศิลา ขำเพชร รอง ผกก.5 บก.ทล, พ.ต.ท.ยุทธนัน จันทร์เนตร รอง ผกก.5 บก.ทล.เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทล.
พ.ต.ท.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว.ส.ทล 3 กก.5 บก.ทล, ร.ต.อ.นิคม เพชรนิล รอง สว.(ป.) ส.ทล 3 กก.5 บก.ทล, ร.ต.ต.ธรรมศักดิ์ จงทอง รอง สว.(ป.) ส.ทล 3 กก.5 บก.ทล, ด.ต.ประทีป มีอุดร ผบ.หมู่ ส.ทล 3 กก.5 บก.ทล, จ.ส.ต.สายชล ศิลาไศล ผบ.หมู่ ส.ทล 3 กก.5 บก.ทล.,จ.ส.ต.พีระวัฒน์ มีศิลารัตน์ ผบ.หมู่ ส.ทล 1 กก.5 บก.ทล.
พร้อมของกลางที่ตรวจยึด
1. รถยนต์ยี่ห้อมิซซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว จำนวน 1 คัน
2. อาวุธมีด ยาว 9 นิ้วรวมด้าม จำนวน 1 เล่ม
3. กางเกงขายาว ลายพลางทหารสีเทาเขียว จำนวน 1 ตัว
4. เสื้อยืดคอกลม แขนสั้น สีดำ จำนวน 1 ตัว
5. รองเท้าแตะ ยี่ห้อ ADDA สีน้ำเงิน จำนวน 1 คู่
สถานที่ทำการจับกุม จุดกลับรถ แยกสกัดน้ำมัน ถ.เลี่ยงเมืองพิษณุโลก ม.2 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลกพฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล. พิษณุโลกได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์ รถยนต์ ยี่ห้อมิชซูบิชิ ปาเจโร่ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จ.อุตรดิตถ์ พ.ต.ท.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว.ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล จึงได้วิทยุวางแผนก้าวสะกัดจับตามที่ได้ทำการฝึกมา และสั่งการให้หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงบ้านป่า จ.พิษณุโลก ทำการสะกัดจับ บริเวณถนนหลวงหมายเลข 11 (ขาเข้า) หน้าหน่วยบริการฯ
ต่อมารถคันดังกล่าวได้ขับขี่ฝ่าจุดสะกัด ในขณะเดียวกัน ด.ต.ประทีป มีอุดร และ ร.ต.ท.นิคม เพชรนิล จนท.ตร ส.ทล.3 กก.5 ได้ขับรถวิทยุสายตรวจทางหลวงหมายเลข 5305 ติดตาม และได้ประสานรถวิทยุสายตรวจหมายเลข 5303 ที่มี จสต.พีระวัฒน์ มีศิลารัตน์ และ จสต.สายชล ศิลาไศล จนท.ตร.ทล.พิษณุโลก สกัดจับบริเวณ ทล.126 (ขาออก)
โดยได้ประสานรถพ่วงจอดปิดเส้นทางกีดขวางเส้นทางบริเวณ แยกสะกัดน้ำมัน อ.เมือง จ.พิษณุโลก
เมื่อรถคันที่ก่อเหตุถึงบริเวณแยกที่เกิดเหตุ แยกสะกัดน้ำมัน อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้เห็นรถพ่วงจอดขวางถนนและได้ขับขี่พุ่งชน จสต.พีระวัฒน์ฯ แต่จสต.พีระวัฒน์ฯ กระโดดหลบได้ทัน ทำให้บาดเจ็บเล็กน้อย และรถคันก่อเหตุดังกล่าวกระเสียหลักพุ่งชนเสาไฟบริเวณเกาะกลางถนน
ด.ต.ประทีปฯ และ ร.ต.ท.นิคมฯ ที่ขับขี่ไล่ตามมาแบบประชั้นชิด และได้พยามเข้าทำการควบคุมตัวผู้ต้องหา ทราบชื่อภายหลังชื่อ นาย กรกฎฯ อายุ 31 ปี โดยนายกรกฎฯ ได้พยามนำอาวุธมีดพก แทง ด.ต.ประทีป มีอุดร และ จ.ส.ต.พีระวัฒน์ มีศิลารัตน์ และพยายามจะชิงเอารถวิทยุสายตรวจทางหลวงเพื่อที่จะขับหลบหนี แต่ตำรวจทางหลวงได้ใช้อาวุธปืนยิงไปที่บริเวณมือด้านขวาของผู้ต้องหาเพื่อหยุดยั้งคนร้าย และสามารถควบคุมตัว นำผู้ต้องหาเข้ารักษาตัวที่ รพ.พุทธชินราช และดำเนินคดี สภ.เมืองพิษณุโลก
ส่วนตำรวจทางหลวงที่บาดเจ็บ มี ด.ต.ประทีป มีอุดร ได้รับบาดเจ็บมีลอยปลายมีดแทงบริเวณหน้าท้องด้านซ้าย เป็นรอยถลอกเล็กน้อย และ จสต.พีระวัฒน์ มีศิลารัตน์ บาดเจ็บบริเวณข้อเท้า กรณีกระโดดหลบรถผู้ที่ต้องหาที่ขับพุ่งชน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก ได้สั่งการให้ดูแลรักษาพยาบาลเป็นอย่างดี พร้อมชมเชยในการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธี ไล่ล่าคนร้ายกว่า 50 กิโลเมตร ปฏิบัติตามแผนก้าวสกัดจับจนสามารถจับกุมคนร้ายและหยุดความเสียหาย ไม่ทำให้เกิดอันตรายใดกับประชาชนที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนได้เป็นอย่างดี
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว. ส.ทล.3 กก.3 บก.ทล. เบอร์โทรศัพท์ 0894236363