สองกมธ.วุฒิสภา ผนึกกำลังลุยติดตามตรวจสอบทุนจีนอิทธิพลลักลอบนำขยะอิเล็กทรอนิกส์อันตรายมาชำแหละในเมืองไทยแบบผิดกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังส่งอันธพาลคุกคามประชาชนและสื่อ
วันที่ 18 ม.ค. 68 นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 68 ตนพร้อมนายวิเชียร ชัยสถาพร รองประธานกรรมาธิการพานิชย์ อุสาหกรรม วุฒิสภา ได้นำคณะกรรมาธิการๆและคณะที่ปรึกษาๆพร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เข้าตรวจสอบบริษัทที แอนด์ ที เวสท์ แมเนจเม้นท์ 2017 จำกัด ที่ตั้งอยู่ใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งบริษัทแห่งนี้เคยถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี และกรมโรงงานอุตสาหกรรม มีคำสั่งห้ามประกอบกิจการโดยไม่รับอนุญาต ห้ามเคลื่อนย้ายสิ่งของ วัสดุ เครื่องจักรที่ กรอ.มีคำสั่งอายัดไว้ตั้งแต่เดือนช่วงเดือน ก.ย.2567 เป็นต้นมา แต่กลับพบว่าบริษัทๆแห่งนี้ไม่เพียงฝ่าฝืนคำสั่งปิดของกรมโรงงานฯ แต่ยังจัดชุดลาดตระเวนโดยกลุ่มคนใส่โม่งปิดบังใบหน้าคอยคุกคามประชาชนและสื่อที่พยายามตรวจสอบการกระทำผิดของโรงงาน
นอกจากนี้ยังพบพยานหลักฐานการลักลอบทิ้งสารเคมีและกากอุตสาหกรรมในพื้นที่บ่อน้ำที่ใกล้เคียงกับบริษัทๆด้วย ด้วยพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนไม่เคารพกฎหมาย ตรวจพบขยะอิเล็กทรอนิกส์นำเข้าจากต่างประเทศกว่า 3,000 ตัน และช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ดูแลโรงงานที แอนด์ ที เวสท์ฯ ข้อหาครอบครองวัตถุอันตราย โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
จนกระทั่งถึงเดือนธันวาคม 2567 เดือนส่งท้ายปี ที แอนด์ ที เวสท์ฯ ยังคงฝ่าฝืนคำสั่ง และลักลอบประกอบกิจการอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ กสทช. เข้าตรวจสอบพบตัวตัดสัญญาณโทรศัพท์และความถี่วิทยุในพื้นที่โรงงาน เพื่อตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และเครื่องโดรนให้ไม่สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ และมีข่าวการเปิดเผยเอกสารทางการเงินที่เชื่อได้ว่าเป็นการจ่าย “ส่วย” ในกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้โรงงานสามารถดำเนินกิจการได้ต่อไป
การลงพื้นที่ครั้งนี้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม เปิดเผยว่า เป็นการประสานปฎิบัติของ คณะกรรมาธิการวุฒิสภาซึ่งประกอบด้วย กรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมาธิการพานิชย์ อุสาหกรรม วุฒิสภา ซึ่งทั้งกรรมาธิการทั้งสองคณะมีภารกิจหน้าที่และอำนาจในการดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในภาระกิจที่เกี่ยวข้อง ในด้านการป้องกันการเกิดมลพิษจากขยะในภาคอุสาหกรรม ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหามีการลักลอบทิ้งกากขยะ สารเคมีอันตรายจากภาคอุสาหกรรมในหลายๆพื้นที่ของประเทศ รวมถึงการลักลอบนำเข้ากากขยะอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศแบบผิดกฎหมาย มาชำแหละแยกชิ้นส่วนและนำกากขยะที่เหอันตรายที่เหลือลักลอบทิ้งทำให้เกิดมลพิษ ที่ตกค้างในธรรมชาติเป็นอันตรายต่อคุณภาพชีวิตของ พี่น้องประชาชนในหลายๆพื้นที่ทั่วประเทศ
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่าประเด็นที่ทั้งสอง กรรมาธิการวุฒิสภาๆให้ความสนใจคือประเด็นการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีความสัมฤทธิ์ผล ไม่ครบถ้วน เมื่อภาครัฐได้มีการดำเนินคดีต่อผู้ประกอบการเหล่านี้แล้ว ภาครัฐไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการควบคุม ดูแลของกลางในคดีปล่อยให้มีการทำลาย เคลื่อนย้ายของกลางในคดีไปซุกซ่อนพื้นที่อื่นๆ
ประเด็นการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมที่ยังไม่มีการดำเนินการให้ชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือ เมื่อมีคำสั่งปิดโรงงานสถานประกอบการตามระเบียบแล้ว ยังปล่อยให้มีการลักลอบประกอบการอีกซ้ำซากรวมทั้งมีข่าวการใช้อิทธิพลข่มขู่ชาวบ้าน ผู้ร้องเรียนที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนมีข่าวว่ามีขบวนการส่งส่วยผลประโยชน์ให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ซึ่งประเด็นปัญหาเหล่านี้ คณะกรรมาธิการวุฒิสภาๆทั้งสองคณะๆจะดำเนินตรวจสอบ ศึกษาหาข้อเท็จจริงและนำเสนอแนวทางต่อรัฐบาลดำเนินตามระเบียบ กฎหมายต่อไป
สำหรับหน่วยงานที่ได้เชิญมาร่วมให้ข้อมูล และตรวจสอบพื้นที่ได้แก่ กรมศุลกากร ,กรมโรงงานอุสาหกรรม,กรมควบคุมมลพิษ ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายตำรวจ,องค์การบริหารส่วนตำบลๆ ,และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง