ผู้เสียหายรายนี้เป็นรปภ.หญิงวัย 45 ปี ในย่านลาดกระบัง และยังมีนักศึกษาสาววัย 22 ปี ถูกเชิญชวนผ่านแอพให้กู้เงินด่วน ดอกเบี้ยถูก โดยคนร้ายรายนี้โอนเงินให้จริงแต่ไม่เต็มจำนวน
นางทยภร เชิญชม รปภ.หญิงในหอพักแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง เปิดเผยว่า ตนได้รับการชักชวนให้สมัครผ่านแอพฯฉับไว เพื่อกู้เงินด่วน ข้อเสนอพิเศษ ไม่ต้องใช้เอกสารแถมโอนเงินมาให้ก่อนครึ่งหนึ่ง
โดยเธอได้รับวงเงินทั้งหมด 6900 บาท คนร้านโอนมาก่อน 3,450 บาท
แต่พอถึงครบกำหนดชำระต้องใช้คืนเต็มจำนวน 6900 บาท ทั้งที่ได้เงินมาใช้แค่ครึ่งเดียว แถมคิดดอกเบี้ยโหด เมื่อเลยกำหนดชำระจะคิดค่าดอกเบี้ยวันละ 800 บาท เมื่อไม่มีให้คนร้ายจะโทรมาข่มขู่ ขู่ฆ่า โทรไปขู่ญาติพี่น้องคนรู้จัก โพสต์ประจานทางเฟซบุ๊ก
จนบางครั้งอยากคิดฆ่าตัวตาย แต่โชคดีมีเพื่อนผู้เสียหายหลายคนที่เคยเจอเหตุการณ์เดียวกันจึงชักชวนกันมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่
เช่นเดียวกับนางสาววัลภา ใจเปี้ย อายุ 22 ปี นักศึกษามหาลัยแห่งหนึ่ง ก็ถูกคนร้ายโทรมาข่มขู่ในลักษณะเดียวกัน โดยเธอกู้ยืมเงินจากแอพฯ ใช้ไว กู้ยืมเงินมา 5000 บาท แต่คนร้ายโอนให้จริงแค่ 2500 บาท เมื่อถึงกำหนดครบชำระต้องโอนคืน 5000 บาท หากเลยกำหนดจะคิดดอกเบี้ยวันละ 800 บาท เมื่อไม่มีให้ คนร้ายจะใช้วิธีโทรศัพท์มาข่มขู่ ขู่ฆ่าพ่อแม่ พี่น้อง ซึ่งตนคิดว่ามิจฉาชีพเหล่านี้ทำเกินกว่าเหตุเกินไปจึงเข้าร้องทุกข์แจ้งความกับตำรวจ ปอท.
อีกรายเป็นแม่ค้าไส้อั่วออนไลน์ ถูกหลอกให้โอนเงินแค่สุดท้ายโอนไปกว่า 8 หมื่นบาท แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้กู้
นางสาวบัณฑิตา ศิริรัตน์ประภาพร วัย 32 ปี แม่ค้าขายไส้อั่วออนไลน์ เปิดเผยว่า ตนทำอาชีพขายไส้อั่วชื่อร้าน “ไส้อั่วมาจูตี้ ” เป็นร้านไส้อั่วออนไลน์ ไม่มีหน้าร้านอยู่ในย่านซอยวิภาวดี 16 แขวงจอมพล เขตจตุจักร เพิ่งขายมาได้ประมาณ 3 เดือน แต่ช่วงโควิดระบาดหนักในกทม.ที่ผ่านมา ทำเกิดปัญหาปัญหาขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินหมุน เนื่องจากมีภาระตุ้นทุนหลายอย่าง จึงพยายามหากู้เงินจากสถาบันการเงินมาเสริมสภาพคล่อง แต่ในระหว่างนี้ ได้มีผู้แอบอ้างว่าเป็นตัวแทนจากบริษัทพิโกไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง โทรศัพท์มาเสนอเงื่อนไขให้กู้เงินได้โดยไม่จำเป็นต้องมีสลิปเงินเดือน และ สเตทเมนท์
หลังจากนั้นคนร้ายได้ขอแอดไลน์ – โหลดแอพฯที่อ้างว่าเป็นแอพฯของบริษัท เพื่อติดต่อ หลอกให้เหยื่อโอนเงินเข้า
มาให้ครั้งแรกจำนวน 5,000 บาทโดยอ้างว่าเป็นค่า รหัสถอนเงิน ที่เหยื่อจะสามารถกู้และถอนเงินออกมาได้จำนวน 55,000 บาท แต่หลังจากเหยื่อโอนไปแล้ว กลับถอนเงินออกมาไม่ได้ โดยคนร้ายอ้างว่าเหยื่อกรอกเลขที่บัญชีผิด จึงทำให้ระบบล้มเหลว ต้องโอนเงินเข้ามาอีก 20,000 บาทเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมรับรองความถูกต้อง แต่ค่าธรรมเนียมนี้ไม่หายไปไหนจะทบเข้าไปในวงเงินให้กู้ที่จะกู้ได้ถึง 75,000 บาท
หลังจากโอนไปอีก 20,000 บาท แต่ก็ยังถอนเงินผ่านแอพฯ โดยคนร้ายอ้างว่าเครดิตลูกค้าไม่เพียงพอ ต้องโอนเงินเพิ่มเครดิตให้วงเงินกู้ของลูกค้าเองจึงจะถอนได้ถึง 105,500 บาท สุดท้ายเหยื่อหลงโอนไปทั้งหมด 7 หมื่นบาท แต่ยังไม่สามารถกู้ถอนได้ เพราะคนร้ายอ้างว่าต้องโอนเงินมาปลดล็อกบัญชีอีก 35,000 บาท
แต่เหยื่อไม่สามารถหาเงินมาให้ได้แล้ว เนื่องจากเงินที่โอนให้คนร้ายส่วนใหญ่เป็นเงินที่หยิบยืมมาจากญาติพี่น้องและเพื่อนในเฟซบุ๊ก ขณะนี้กู้เงินก็ไม่ได้ เงินที่โอนไปก็ขอคืนไม่ได้ หนำซ้ำยังถูกเพื่อนโพสต์ประจานด่าว่ายืมเงินไปแล้วไม่คืน เนื่องจากตนหาเงินมาคืนให้ยังไม่ได้
นอกจากนี้ยังถูกคนร้ายใช้ไลน์ชื่อ ฝ่ายจัดการเรื่องกู้ อ้างในทำนองเดียวกัน คนร้ายรายนี้ยังหลอกให้เหยื่อโอนเงินออกได้อีก 12,500 บาท สรุป 2 เจ้าโดนไป 82,500 บาท
” หนูอยากเรียกให้กระทรวงดีอีเอส ตำรวจปอท. ช่วยติดตามตรวจสอบกวาดล้างเรื่องเหล่านี้และให้ความสำคัญควบคู่ไปพร้อมๆกับการตรวจจับข่าวปลอม “เฟคนิวส์” ด้วยค่ะ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นการซ้ำเติมพิษโควิด กระทบคนทำมาหากินจำนวนมาก เนื่องจากเท่าที่พูดคุยกันในกลุ่มผู้เสียหาย พบว่ามีผู้เสียหายมากกว่า 20 คนก็ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันและกำลังจะทยอยเข้าแจ้งความเร็วๆนี้ ค่ะ หนูจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยจับกุมคนร้ายปราบปรามขบวนการหลอกหลวง ฉ้อโกงนี้โดยเร็ว”