กมธ.เศรษฐกิจวุฒิสภา ห่วง กยศ.วิกฤตเงินขาดมือกว่า 1.6 หมื่นล้าน

Mummai Media

กมธ.เศรษฐกิจวุฒิสภา ห่วง กยศ.วิกฤตเงินขาดมือกว่า 1.6 หมื่นล้าน หวั่น กระทบเยาวชนพลาดโอกาสทางการศึกษาไทยนับแสน แนะ 7 มาตรการแก้ไขเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายพละวัต ตันศิริ ส.ว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง วุฒิสภา กล่าวถึงสถานการณ์กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่กำลังเผชิญกับภาวะเงินขาดมืออย่างรุนแรง ว่ากยศ.เป็นกลไกสำคัญในการกระจายโอกาสทางการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างกำลังคนที่มีคุณภาพให้ประเทศชาติ

แต่กยศ.กำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนัก คาดการณ์ว่าจะมีกระแสเงินสดติดลบ 30,000 ล้านบาทในปี 2568 และล่าสุดข้อมูลระบุว่าปี 2568 จะมีเงินขาดมือสุทธิประมาณ 14,000 ล้านบาท ที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าคือ งบประมาณปี 2569 ที่ กยศ.เสนอขอไป 21,900 ล้านบาท แต่กลับได้รับการจัดสรรเพียง 5,100 ล้านบาท ทำให้เกิดช่องว่างทางการเงินสูงถึงเกือบ 16,000 ล้านบาท  หากเป็นเช่นนี้ จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักศึกษาใหม่ในปี 2569 ที่คาดการณ์ว่าจะได้รับเงินกู้เพียง 25% จากจำนวนทั้งหมด 182,255 ราย

นายพละวัต กล่าวต่อว่า หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ยอดเงินสดคงเหลือของกองทุนอาจลดลงถึง 7-8 หมื่นล้านบาทภายในปี 2570 ซึ่งจะกระทบต่อโอกาสทางการศึกษาของนักศึกษาใหม่กว่าแสนคน จึงเสนอ 7 มาตรการเร่งด่วน ประกอบด้วย

1.เร่งจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม ให้ กยศ.ในปี 2569 โดยด่วน

2.ปรับปรุงความยืดหยุ่นของกองทุน เช่น เปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้สูงสามารถชำระคืนได้เร็วขึ้น

3.ส่งเสริมแหล่งเงินทุนทางเลือก เช่น ทุนการศึกษาจากบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI

4.บริหารจัดการกองทุนเชิงรุก

5.ปรับรูปแบบการชำระคืน ให้สอดคล้องกับรายได้และการจ้างงานของลูกหนี้

6.ส่งเสริมความรู้ทางการเงิน ให้กับผู้กู้ยืม

7.จัดการข้อมูลลูกหนี้อย่างครอบคลุม และมีมาตรการจูงใจในการชำระหนี้ตรงเวลา รวมถึงมาตรการพัฒนาทักษะอาชีพสำหรับลูกหนี้ที่ว่างงาน

นายพละวัตกล่าวว่า การแก้ไขปัญหา กยศ.เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ เพื่อไม่ให้เยาวชนไทยต้องพลาดโอกาสทางการศึกษา และเพื่ออนาคตของประเทศชาติโดยรวม