“สว.ชีวะภาพ” ห่วงร่างนิรโทษกรรมคดีรุกป่า เหมาเข่งฟอกผิด 7 หมื่นคดี ชี้ ผลาญงบฟื้นฟูป่านับหมื่นล้าน-อุ้มนายทุนโค่นต้นไม้-ฮุบที่ดิน
วันที่ 1 ต.ค.68 นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย.68 ได้เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาศึกษาการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งได้รับความเสียหาย หรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ หรือร่างกฎหมายนิรโทษกรรมคดีรุกป่า โดยเรียกผู้แทนจากกรมป่าไม้ , กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช , กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง , กรมที่ดิน และรศ.วีระภาส คุณรัตนสิริ นักวิชาการจาก คณะวนศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ เข้าร่วมชี้แจง
นายชีวะภาพ กล่าวแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อร่างพระราชบัญญัติกฎหมายนิรโทษกรรมคดีรุกป่า ซึ่งอาจกลายเป็นการ “เปิดช่อง” ให้กลุ่มทุนที่เคยกระทำผิดกฎหมายได้รับการนิรโทษกรรม โดยไม่มีการจำแนกแยกแยะระหว่างผู้ยากไร้ที่เดือดร้อนจริงกับนายทุนที่แสวงหาผลประโยชน์
“กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เขียนไว้ตรงไหนเลยว่านายทุนไม่สามารถเข้ามาได้ มันคือช่องทางที่เปิดให้นายทุนเข้ามาทั้งหมด” นายชีวะภาพกล่าว “เราเป็นห่วงว่านี่จะเป็นการส่งสัญญาณถึงนายทุนที่ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ให้กลับเข้ามาในที่ดินเดิมได้”
“เหมาเข่ง” ฟอกผิด 7 หมื่นคดี สลายงบฟื้นฟู “หมื่นล้าน”
ประธาน กมธ.สิ่งแวดล้อม วุฒิสภายัง ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่น่ากังวล โดยใช้คำว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นการ “เหมาเข่ง” ที่ไม่เป็นธรรม เพราะนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน มีคดีบุกรุกป่ามากถึง 70,000 กว่าคดี มีผู้ต้องหากว่า 20,000 คน และยึดคืนพื้นที่ป่าได้กว่า 1.2 ล้านไร่ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้รัฐบาลได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นภาษีของประชาชนนับ “หมื่นล้านบาท” ในการฟื้นฟูสภาพป่า ปลูกต้นไม้ขึ้นมาใหม่
“หากกฎหมายนี้ผ่าน คนที่เคยบุกรุกก็จะกลับเข้าไปในที่ดินเดิมได้ นั่นหมายความว่าเขาต้องไปตัดต้นไม้ที่รัฐเอางบประมาณไปปลูกไว้ทิ้ง แล้วใครจะไปจับเขาได้? เงินงบประมาณแผ่นดินที่ลงไปก็จะสูญเปล่าทันที”
ยกคดี “เสือดำ” สะเทือนใจ ชี้คนผิดกฎหมายได้ดี
นายชีวะภาพได้หยิบยกคดีล่า “เสือดำ” ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรมากล่าวถึง โดยระบุว่าบริษัทของผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ก็มีคดีบุกรุกป่าเพื่อสร้างรีสอร์ตในพื้นที่ จ.เลย ถึง 6,000 ไร่
“ถ้า พ.ร.บ. ตัวนี้ออกมา วิญญาณเสือดำป่าทุ่งใหญ่นเรศวรนอนตายตาไม่หลับ เพราะคดีบุกรุกป่า 6,000 ไร่แบบนี้ ก็จะสามารถยื่นเรื่องขอนิรโทษกรรมได้ แล้วเขาก็จะกลับเข้าไปทำมาหากินในพื้นที่เดิมได้เหมือนเดิม นี่คือการเอื้ออาทรให้นายทุนชัดๆ”
จี้รัฐบาลถอนร่างฯ ชี้มีวิธีอื่นช่วยคนจน
นายชีวะภาพ ยืนยันว่า คณะกรรมาธิการฯ ไม่ได้คัดค้านการช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ แต่กลไกการช่วยเหลือมีอยู่แล้วหลายช่องทาง เช่น มติ ครม. ปี 2541 หรือคำสั่ง คสช. ที่ 64 และ 66 ที่เน้นย้ำให้ “จับนายทุน ไม่จับผู้ยากไร้” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สามารถคัดกรองได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว
“การจะช่วยประชาชน ควรใช้วิธีอื่นที่ไม่ใช่การเหมาเข่งแบบนี้ ผมอยากให้ถอนร่างกฎหมายนี้ออกไปพิจารณาใหม่ เพื่ออุดช่องโหว่ที่จะเอื้อประโยชน์ให้นายทุน เพราะหากปล่อยผ่านไป จะเกิดความเสียหายต่อทั้งระบบนิเวศ ระบบการบังคับใช้กฎหมาย และทำลายความเชื่อมั่นของคนที่เคารพกฎหมายอย่างร้ายแรง” นายชีวะภาพ กล่าวทิ้งท้าย