นายกสมาคมธุรกิจกลางคืนเมืองพัทยา วอนรัฐทบทวนกฎหมาย “ห้ามขายเหล้า-เบียร์ช่วงบ่าย-ห้ามนั่งหลังเที่ยงคืน” ฉุดการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น ชี้ธุรกิจเก้าอี้ชายหาดชะงัก นักท่องเที่ยวโดนจับปรับ ทำลายภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทย
วันที่ 6 ต.ค. 68 ที่อาคารรัฐสภา นางประทุม วงศ์สวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา (กมธ.) วุฒิสภา พร้อมด้วยนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์และนายนิทัศน์ อารีย์วงศ์สกุล ในฐานะกรรมาธิการและที่ปรึกษาฯ ได้เข้ารับเรื่องร้องทุกข์จาก นางลิซ่า แฮมิลตัน นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน เมืองพัทยา และตัวแทนผู้ประกอบการ เพื่อขอให้วุฒิสภาเร่งหาแนวทางแก้ไขผลกระทบจากพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2568 ที่ห้ามสถานประกอบการจำหน่ายแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00 น.-17.00 น.และห้ามนั่งดื่มในร้านหลังเที่ยงคืน ยกเว้น 1.ท่าอากาศยานนานาชาติ 2.สถานบริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย 3.โรงแรมที่มีใบอนุญาตโรงแรม ซึ่งกำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 นี้
นางลิซ่า กล่าวว่า กฎหมายข้อนี้สร้างความกังวลใจอย่างหนักให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่พัทยา แต่รวมถึงภูเก็ต สมุย เชียงใหม่ กระบี่ และกรุงเทพฯ เพราะจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวเพื่อพักผ่อน เขาไม่รู้กฎหมายข้อนี้ของไทย หากไปนั่งจิบเบียร์ชิลๆ ริมชายหาด หรือดื่มในร้านยังไม่ทันหมดขวดแล้วเกินเวลาเที่ยงคืน แล้วถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับปรับ จะเกิดอะไรขึ้น ภาพลักษณ์ประเทศไทยจะเสียหายยับเยิน อาจถูกนำไปโพสต์หรือบอกต่อในโซเชียลมีเดีย สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยขณะนี้ผู้ประกอบการตามจังหวัดท่องเที่ยวต่าง ๆ มีความกังวลกับกฎหมายดังกล่าว และอยากให้ภาครัฐทบทวน เพราะส่งผลกระทบทั้งผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว เนื่องจากจะนั่งดื่มแอลกอฮอล์ตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่น เมืองพัทยา ถ้านักท่องเที่ยวนั่งดื่มตามเก้าอี้ชายหาด จะถูกจับหรือปรับทันที หากฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่รีบแก้ไข นักท่องเที่ยวอาจนำไปสื่อสารจนเกิดความเสียหายได้ ยิ่งในช่วงนี้ที่กำลังจะเป็นช่วงไฮซีซั่น อีกทั้งยังเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ได้ด้วย
“ที่น่ากังวลไปกว่านั้น คือกฎหมายนี้อาจเป็นช่องว่างให้เจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่มใช้ในการเรียกรับผลประโยชน์ หรือที่เรียกว่า ‘ส่วย’ ได้อีกด้วย และที่สำคัญ มันย้อนแย้งกับนโยบายรัฐบาลที่เพิ่งจะปลดล็อกให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วง 14.00-17.00 น. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่กลับออกกฎหมายมาห้ามนั่งดื่มแบบนี้ มันสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น จึงอยากให้ทางวุฒิสภาช่วยแก้ไขปัญหา” นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน เมืองพัทยา กล่าว.
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังแสดงความเป็นห่วงว่า กฎหมายดังกล่าวยังขัดต่อหลักความปลอดภัย เพราะที่ผ่านมาหลายร้านมีนโยบายให้ลูกค้านั่งพักให้สร่างเมาก่อนกลับ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน แต่กฎหมายใหม่นี้กลับบีบให้ต้องไล่ลูกค้าออกจากร้านทันทีที่เกินเวลา ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุเมาแล้วขับมากขึ้น
ด้าน นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา กล่าวภายหลังรับเรื่องว่า ทาง กมธ. ตระหนักถึงผลกระทบที่รุนแรงและเร่งด่วน โดยจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาเพื่อหารือกับประธานวุฒิสภาโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งจะประสานไปยังกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทบทวนและหาแนวทางแก้ไขเป็นการด่วน ก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้และสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศในช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึง.