สนค.เผย เงินเฟ้อเดือน ต.ค.ติดลบ 0.76 %  ต่อเนื่อง 7 เดือน ผลจากมาตรการลดค่าครองชีพ ราคาพลังงานลง  ภาพรวมเงินเฟ้อ 10 เดือนของปี 2568  ลดลง 0.09% ชี้ อีก 2 เดือนที่เหลือมีแนวโน้มติดลบติอเนื่อง คาดทั้งปีอาจติดลบ

Mummai Media

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เงินเฟ้อเดือน ต.ค. 68  ติดลบ 0.76 %  ต่อเนื่อง 7 เดือน โดยปัจจัยหลักมาจากมาตรการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนของภาครัฐ ผ่านโครงการ Quick Big Win และสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลก ส่งผลให้ราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานลดลง ทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง

นอกจากนี้ มีสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ เนื้อสุกร ไข่ไก่ ผักสด และผลไม้สด จากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งของใช้ส่วนบุคคล จากการส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการ สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก

ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน  เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก สูงขึ้น 0.61  %  ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก.ย. 2568 ที่สูงขึ้น 0.65  % รวมเงินเฟ้อ 10 เดือนของปี 2568 (ม.ค.-ต.ค.) ลดลง 0.09%

สนค.เผย เงินเฟ้อเดือน ต.ค.ติดลบ 0.76 %  ต่อเนื่อง 7 เดือน ผลจากมาตรการลดค่าครองชีพ ราคาพลังงานลง  ภาพรวมเงินเฟ้อ 10 เดือนของปี 2568  ลดลง 0.09% ชี้ อีก 2 เดือนที่เหลือมีแนวโน้มติดลบติอเนื่อง คาดทั้งปีอาจติดลบ

สำหรับเงินเฟ้อเดือน ต.ค. 68  ติดลบ 0.76 %   มาจากการลดลงของหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 1.10% โดยสินค้าสำคัญที่ลดลง ได้แก่ กลุ่มพลังงาน (ค่ากระแสไฟฟ้า แก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน) ของใช้ส่วนบุคคล (น้ำยาระงับกลิ่นกาย โฟมล้างหน้า สบู่ถูตัว แชมพู ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว แป้งผัดหน้า) รถยนต์ ค่าโดยสารเครื่องบิน เสื้อผ้า (เสื้อยืดบุรุษ สตรี และเด็ก เสื้อเชิ้ตบุรุษและสตรี กางเกงขายาวบุรุษ) และสิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (ผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำยารีดผ้า น้ำยาถูพื้น ผลิตภัณฑ์ฟอกผ้าขาว น้ำยาซักผ้าขาว) ส่วนสินค้าสำคัญที่ปรับราคาสูงขึ้น อาทิ ค่าเช่าบ้าน ค่าทัศนาจรต่างประเทศ ค่าบริการขนขยะ ค่าแต่งผมบุรุษและสตรี และอาหารสัตว์เลี้ยง

ส่วนหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.17% จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญกลุ่มผักสด (ต้นหอม ผักกาดขาว พริกสด มะนาว กะหล่ำปลี ผักชี ขิง มะเขือ) กลุ่มผลไม้สด (องุ่น มะม่วง กล้วยน้ำว้า ส้มเขียวหวาน) ไข่ไก่ เนื้อสุกร ไก่สด และข้าวสารเหนียว ส่วนสินค้าที่ราคาสูงขึ้น อาทิ กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว) ข้าวสารเจ้า กลุ่มปลาและสัตว์น้ำ (ปลาทู ปลาช่อน) กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป กาแฟ (ร้อน/เย็น) เครื่องดื่มรสช็อกโกแลต) กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (น้ำมันพืช กะทิสำเร็จรูป น้ำพริกแกง) และกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล (ขนมหวาน ไอศกรีม)

สนค.เผย เงินเฟ้อเดือน ต.ค.ติดลบ 0.76 %  ต่อเนื่อง 7 เดือน ผลจากมาตรการลดค่าครองชีพ ราคาพลังงานลง  ภาพรวมเงินเฟ้อ 10 เดือนของปี 2568  ลดลง 0.09% ชี้ อีก 2 เดือนที่เหลือมีแนวโน้มติดลบติอเนื่อง คาดทั้งปีอาจติดลบ

                นายนันทพงษ์ กล่าวว่า  การที่เงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 7 เดือน ยังไม่มีสัญญาณเงินฝืด เพราะสาเหตุหลักที่ฉุดเงินเฟ้อมาจากเรื่องพลังงานที่ลดลง เงินบาทแข็งค่า ก็ดึงให้ราคาพลังงานถูกลงอีก และยังมีมาตรการภาครัฐที่ดูแลในเรื่องพลังงาน ค่าไฟฟ้า รวมถึงอาหารสดที่ลดลง  โดยเงินเฟ้อไทยเคยติดลบมากสุด 12 เดือน ช่วงเดือน มี.ค.2563-มี.ค.2564” นายนันทพงษ์ กล่าว
                ส่วนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนในช่วง 2เดือนที่เหลือของปีนี้ยังคงติดลบต่อเนื่อง และมีความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อทั้งปีนี้อาจขยายตัวติดลบ ซึ่งต่ำกว่าเป้าคาดการณ์ที่ 0% โดยมีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากกลุ่มประเทศโอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายบรรเทาภาระค่าครองชีพผ่านโครงการ Quick Big Win ส่งผลให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (OFFO) ปรับลดอัตราเงินสมทบเข้ากองทุนฯ และทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลดลงมาอยู่ที่ 30.94 บาทต่อลิตร  ภาครัฐดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่า Ft งวดเดือนก.ย – ธ.ค. 2568 มาอยู่ที่ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่ากระแสไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.94 บาทต่อหน่วย

นอกจากนี้ราคาผักสดและผลไม้สดต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก จากผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก รวมทั้งฐานราคาผักสดในปีก่อนหน้าที่อยู่ในระดับสูง และ  ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับลดราคาห้องพัก เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของภาครัฐ (ณ วันที่ 21 ต.ค. 2568) โดยเฉพาะมาตรการหักลดหย่อนภาษีค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวภายในประเทศสูงสุด 20,000 บาท

สำหรับปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ได้แก่ การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวมีแนวโน้มทำให้ค่าโดยสารเครื่องบินปรับตัวสูงขึ้น และราคาสินค้าเกษตรและเครื่องประกอบอาหารบางชนิดมีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อนหน้า เช่น กะทิสำเร็จรูป กาแฟสำเร็จรูป เกลือป่น และน้ำมันพืช เป็นต้น ด้วยปัจจัยดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2568 อยู่ที่  0.0 %             ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดเดือนก.ย. 2568 พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยลดลง 0.72  %  โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 6 จาก 140 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำสุดใน กลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศที่ประกาศตัวเลข เช่น บรูไน สิงคโปร์ ติมอร์-เลสเต มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา อินโดนีเซีย เวียดนาม สปป.ลาว