พาณิชย์ มั่นใจ มาตรการ Licensing สินค้าใช้ได้สองทาง สร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงกับการค้า ยึดหลักกฎหมาย และยกระดับเชื่อมั่นเวทีโลก

Mummai Media

​นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2569 เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ซึ่งประกอบด้วยกรรมการภาครัฐจาก 13 หน่วยงานที่กำกับดูแลด้านความมั่นคง การต่างประเทศ และหน่วยงานภาคปฏิบัติ มีมติเห็นชอบแนวทางการดำเนินมาตรการ “การขออนุญาต (Licensing)”

สำหรับการส่งออกและส่งกลับสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items: DUI) เพื่อให้การควบคุมสินค้าดังกล่าวเป็นไปอย่างรัดกุม โปร่งใส และสอดคล้องกับบริบทการค้าและการเมืองโลก โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมด้านความมั่นคงกับการอำนวยความสะดวกทางการค้า ตลอดจนยึดถือกฎหมายภายในประเทศและพันธกรณีระหว่างประเทศ

พาณิชย์ มั่นใจ มาตรการ Licensing สินค้าใช้ได้สองทาง สร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงกับการค้า ยึดหลักกฎหมาย และยกระดับเชื่อมั่นเวทีโลก

มาตรการ Licensing จะเริ่มบังคับใช้ช่วงต้นปี 2569 โดยในระยะเริ่มต้นจะครอบคลุม สินค้ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ เช่น วัสดุ เครื่องจักรกลหนัก และอุปกรณ์ทางเทคนิคที่อาจนำไปใช้ผลิตอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง เพื่อเป็นก้าวแรกในการสร้างระบบควบคุมสินค้าที่มีมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับของประชาคมโลก

ทั้งนี้ ได้ออกแบบระบบให้เกิดความสมดุลระหว่างการควบคุมและการอำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชน โดยสินค้าที่มีพิกัดศุลกากรเข้าข่ายแต่ไม่เข้าเกณฑ์ DUI ตามคุณสมบัติทางเทคนิค จะสามารถใช้รหัสยกเว้น “EXEMPT99” ผ่านพิธีการศุลกากรได้อย่างรวดเร็ว เพื่อลดภาระและไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจการค้า

พาณิชย์ มั่นใจ มาตรการ Licensing สินค้าใช้ได้สองทาง สร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงกับการค้า ยึดหลักกฎหมาย และยกระดับเชื่อมั่นเวทีโลก

​ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการฯ เห็นชอบให้เตรียมขยายขอบเขตมาตรการ Licensingไปยัง ระยะที่ 2 โดยครอบคลุมสินค้า DUI กลุ่มระบบนำร่องและระบบอิเล็กทรอนิกส์การบิน กลุ่มยานพาหนะและอุปกรณ์ทางทะเล รวมถึงกลุ่มการบิน อวกาศ และการขับดัน พร้อมทั้งให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการควบคุมการถ่ายลำและการผ่านแดน

 โดยคำนึงถึงการรักษาสมดุลทางการค้าบนพื้นฐานของการไม่สร้างภาระให้แก่ประชาชนเกินจำเป็น ที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการจัดทำ บัญชีรายการสินค้าควบคุมแห่งชาติ (National Control List) ซึ่งจะมีการปรับปรุงและทบทวนอย่างน้อยทุก 5 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับระบบ Harmonized ของศุลกากรโลก และทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยย้ำว่ามาตรการ Licensing เป็นการดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายภายในประเทศ ได้แก่ พระราชบัญญัติการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2562 อีกทั้งยังสอดคล้องกับ ข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSCR 1540) ที่มุ่งป้องกันการแพร่ขยายอาวุธและเทคโนโลยีที่เป็นภัยต่อความมั่นคงระหว่างประเทศ

“การดำเนินมาตรการ Licensing ในครั้งนี้เป็นการ “พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส” เพราะนอกจากจะแสดงให้ประชาคมโลกเห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยในการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศแล้ว ยังช่วยยกระดับความเชื่อมั่นของคู่ค้าและนักลงทุนต่างชาติว่าไทยไม่ใช่แหล่งเผยแพร่สินค้า DUI ที่เป็นภัยคุกคามต่อนานาประเทศ แต่เป็นประเทศที่มีระบบการควบคุมสินค้าที่เข้มแข็ง โปร่งใส และมีความรับผิดชอบต่อสังคมโลก ซึ่งจะช่วยรักษาฐานการผลิตภายในประเทศ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และดึงดูดการลงทุนใหม่ในอนาคต”นางศุภจี กล่าว

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศจะเดินหน้าประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบอย่างทั่วถึง พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกรมศุลกากร เพื่อปรับปรุงกฎหมาย ขั้นตอน และกระบวนการที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกัน โดยยึดหลัก “สร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงกับการอำนวยความสะดวกทางการค้า ยึดหลักกฎหมาย และสอดคล้องพันธกรณีโลก” พร้อมย้ำว่าประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ต้องไม่กระทบต่อภูมิเศรษฐศาสตร์ (Geoeconomics) เพื่อให้มาตรการนี้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่นในระบบการค้าของไทย และขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dft.go.th