จ.อุบลราชธานี ล่าสุดอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงแล้ว 35,623 คน ระหว่างเคลื่อนย้ายมีประชาชนเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว 1 คน

Mummai Media

วันนี้เวลา 05.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามที่ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงใส่ฝ่ายไทย

เวลา 22.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. ในพื้นที่ช่องคะนา และช่องระยี ตรวจพบการเคลื่อนย้าย ถ. T – 55 ของฝ่ายกัมพูชาเคลื่อนย้ายเข้ามาในพื้นที่ กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย รวมทั้งการอพยพประชาชนกัมพูชาออกจากแนวชายแดน

จ.อุบลราชธานี ล่าสุดอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงแล้ว 35,623 คน ระหว่างเคลื่อนย้ายมีประชาชนเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว 1 คน

เวลา 23.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. ทหารกัมพูชาเตรียมความพร้อมสู้รบขั้นสูงสุด จากกรณีปะทะที่พลาญหินแปดก้อน และยังเตรียมความพร้อมรบตลอดแนวชายแดน มีการสร้างที่กำบังเพิ่มเติม, เสริมความแข็งแรงที่มั่น, ค้นหาวัตถุระเบิดในพื้นที่รับผิดชอบ, ลำเลียงกับระเบิดเก็บในที่กำบัง, ปิดโทรศัพท์มือถือ และเตรียมการต้อนรับผู้บังคับบัญชาที่จะเข้ามาบัญชาการรบ รวมทั้งยังเฝ้าตรวจการปฏิบัติของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการใช้รถถัง, Drone และการทำถนนบริเวณหน้าแนว

เวลา 00.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. ในพื้นที่ช่องบก และช่องอานม้า ตรวจพบการเคลื่อนย้าย จลก. RM – 70 ของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร รวมทั้งการอพยพประชาชนกัมพูชาออกจากแนวชายแดน

เวลา 01.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. ในพื้นที่ช่องจอม และช่องเสม็ด ตรวจพบการเคลื่อนย้าย จลก. BM.- 21 และ Type – 90 B ของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย รวมทั้งการอพยพประชาชนกัมพูชาออกจากแนวชายแดน

เวลา 03.25 น. วันที่ 8 ธ.ค. ตรวจพบทหารกัมพูชาสั่งการให้กำหนดเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุน เล็งมาในพื้นที่ บ้านกะชายน้อย ตำบล ปราสาท อำเภอ บ้านด่าน ห่างจากท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ประมาณ 13 กม. และบ้านจรูกแขวะ ตำบล โคกยาง อำเภอปราสาท สุรินทร์ ห่างจากชายแดน 31 กม.

เวลา 05.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธยิงมายังแนวการวางกำลังของฝ่ายไทยในพื้นที่ช่องอานม้า โดยไทยยิงตอบโต้ตามกฎการปะทะ กำลังพลฝ่ายไทยปลอดภัย

เวลา 06.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธยิงวิถีโค้งระดมยิงต่อฝ่ายไทยในพื้นที่ช่องอานม้า

ทั้งนี้ การอพยพประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน มีประชาชนในพื้นที่อำเภอตามแนวชายแดน อพยพออกจากพื้นที่แล้วประมาณร้อยละ 70 มีผู้ลงทะเบียนเข้าศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว 35,623 คน คาดว่าประชาชนบางส่วนเดินทางไปพักอาศัยที่บ้านญาติ และที่เหลืออยู่ระหว่างการเดินทางเคลื่อนย้าย ในระหว่างการอพยพ มีประชาชนเสียชีวิต 1 คน ด้วยโรคประจำตัวในพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

กองทัพภาคที่ 2 จะดำเนินการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพิ่มระดับการเฝ้าระวัง และดำเนินการ ทุกมาตรการเพื่อปกป้องความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนและอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มกำลัง

ขอความร่วมมือให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากหน่วยงานทางการเป็นหลัก และขอยืนยันว่ากองทัพภาคที่ 2 ยังคงปฏิบัติภารกิจในการดูแลพื้นที่ชายแดนด้วยความรอบคอบ เข้มแข็ง มุ่งมั่นรักษาความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของชาติเป็นสำคัญ

จ.อุบลราชธานี ล่าสุดอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงแล้ว 35,623 คน ระหว่างเคลื่อนย้ายมีประชาชนเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว 1 คน