นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมงานเปิดสำนักงานแห่งใหม่ของ บริษัท May Exports (Thailand) Co., Ltd. ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์จัดซื้อสินค้าจากไทยให้กับเครือ LuLu Group International หนึ่งในกลุ่มค้าปลีกชั้นนำของภูมิภาคตะวันออกกลาง ณ ห้อง Ballroom ชั้น 4 ซอยสุขุมวิท 39 กรุงเทพฯ เพื่อผลักดันสินค้าไทยสู่ตลาดตะวันออกกลาง และประเทศอื่น ๆ ที่กลุ่ม Lulu ทีเครือข่ายค้าปลีก เช่น อินเดีย อียิปต์ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อมุ่งเน้นช่วยกระจายรายได้สู่เกษตรกรและผู้ประกอบการไทย และสร้างความร่วมมือทางการค้าระดับภูมิภาคที่ยั่งยืน
ภายในงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นางปิยนุช วุฒิสอน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับ Mr. M.A Yusuff Ali, Chairman & Managing Director of LuLu Group International และ Mr. Said Abdul Anees, Managing Director of May Exports (Thailand) เพื่อหารือแนวทางขยายการนำเข้าสินค้าไทยสู่เครือข่ายค้าปลีกในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) โดยเฉพาะการผลักดันการส่งออกข้าวไทย และผลิตภัณฑ์จากข้าว ทั้งนี้ รมว.พณ. ได้ให้ข้อมูลผู้ส่งออกสินค้าของไทยในหมวดดังกล่าวแก่ทางบริษัท เพื่อพิจารณานำเข้าสินค้าดังกล่าวจากไทยต่อไป

โดยนางศุภจี ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อบริษัท May Exports (Thailand) ในโอกาสการย้ายสำนักงานมายังที่ใหม่ ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์มีความร่วมมือกับ LuLu Group มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าและการจับคู่ธุรกิจหลายครั้ง เพื่อผลักดันสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดต่างประเทศผ่านเครือข่ายค้าปลีกของ LuLu Hypermarket ในหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และอียิปต์ โดยล่าสุด นางศุภจีได้นำคณะผู้บริหาร เยือนซาอุดีอาระเบีย และไปเปิดงาน Thailand Halal Food Festival 2025 ณ ห้างสรรพสินค้า LuLu Hypermarket ที่ริยาด ด้วย
นางศุภจีระบุว่า ไทยมีศักยภาพสูงด้านความมั่นคงทางอาหารและอุตสาหกรรมเกษตร–อาหาร เนื่องจากภาครัฐ เอกชน เกษตรกร และภาควิจัยทำงานร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง ทำให้สินค้าเกษตรและอาหารของไทยได้มาตรฐานสากล และพร้อมตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในตลาดโลก พร้อมเป็น Food Security ให้กับพันธมิตรสำคัญ
นอกจากนี้ ไทยยังมีอุตสาหกรรมศักยภาพอื่น เช่น เครื่องสำอาง เสื้อผ้า ของใช้ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงบริการด้านการท่องเที่ยว

โดยในการหารือ นางศุภจีได้ขอบคุณ LuLu Group ที่นำเข้าสินค้าไทยอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ปี 2541 และทราบว่า Lulu Group มีเป้าหมายในการขยายโอกาสให้กับสินค้าไทยระดับพรีเมียมและนวัตกรรมในหลากหลายประเภทสู่ตลาดต่างประเทศ ผ่านเครือข่ายของ Lulu Group จึงเสนอให้พิจารณาขยายหมวดสินค้านำเข้าเพิ่มเติม โดยเฉพาะสินค้าเกษตรพรีเมียมของไทย เช่น ข้าว มะขาม มะม่วง ลำไย มะพร้าวน้ำหอม และมังคุด รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์การบริโภคเพื่อสุขภาพ เช่น “ข้าวไรซ์เบอร์รี่” ซึ่งมีปริมาณน้ำตาลต่ำและได้รับความนิยมในตลาดสากล และสินค้านวัตกรรม เช่น อาหารจากพืช และเครื่องดื่มสุขภาพ รวมทั้งสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ซึ่งมีคุณภาพสูงตอบโจทย์ประเทศที่มีศักยภาพสูงอย่างประเทศในแถบตะวันออกกลาง
พร้อมกันนี้ ยังได้เชิญ LuLu Group เข้าร่วมงานแฟร์สำคัญของไทยในปี 2569 ได้แก่ งาน THAIFEX – HOREC Asia วันที่ 11–13 มีนาคม 2569 และ THAIFEX – Anuga Asia วันที่ 26–30 พฤษภาคม 2569 เป็นต้น เพื่อพบปะภาคเอกชนไทยและต่อยอดความร่วมมือในสินค้าและบริการหลากหลายหมวด
โดย LuLu Group International ก่อตั้งขึ้นในปี 2538 โดย Mr. M.A Yusuff Ali, Chairman and Managing Director มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดำเนินธุรกิจค้าปลีกครบวงจร ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ และช่องทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันของบริษัท รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญในภูมิภาค และเป็นแพลตฟอร์มสั่งอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ธุรกิจโดดเด่นของกลุ่ม ได้แก่ LuLu Hypermarket






















