พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร จ.สมุทรปราการ ว่า การลงพื้นที่วันนี้เพื่อตรวจระบบการระบายน้ำ ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2557 โดยก่อนหน้านี้มีปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ซึ่งต้องมีการปรับปรุงทำใหม่ให้ดีขึ้น สำหรับสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ เป็นพื้นที่รับน้ำแห่งใหม่ รับน้ำแทนพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ถูกนำไปก่อสร้างสนามบิน โดยสามารถป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้มากพอสมควร ถือเป็นการบริหารจัดการน้ำของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติอย่างเป็นระบบ เพราะขณะนี้น้ำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ จึงได้เตือนในที่ประชุมให้ระมัดระวังสถานการณ์น้ำที่ต้องพบภาวะโลกร้อน และต้องเตรียมแผนไว้ในระยะยาว ซึ่งการประชุมระหว่างภูมิภาคหลายประเทศต่างให้ความร่วมมือกันวางแผนจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้โลกร้อน
นายกฯ ยืนยันต้องดูแลคนทั้งประเทศไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของใคร และตนเองจะลงทุกพื้นที่ ในวันข้างหน้าจะมีการปรับแผนงาน การลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากบรรดา ส.ส. ในการดูแลประชาชนในพื้นที่ โดยคำนึงถึงจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียงด้วย ซึ่งรัฐบาลจะต้องดูแลประชาชน พร้อมรับฟังประชาชนในหลายช่องทาง ที่สะท้อนผ่านทางจังหวัด และในสภาผู้แทนราษฎรที่มีการตอบกระทู้ปัญหาประชาชน ขณะเดียวกันรัฐบาลจำเป็นต้องมีโครงการที่เป็นโครงสร้างใหญ่ให้ประชาชน และในพื้นที่ก็บริหารโครงการในพื้นที่ต่อไป ย้ำดูแลทุกพรรคการเมือง เพราะ ส.ส. คือผู้แทนของประชาชน ดังนั้นเมื่อเป็นรัฐบาลของประชาชนก็ต้องลงพื้นที่ และรับข้อเสนอแนะ ก่อนนำไปพิจารณาว่าจะใช้จ่ายงบประมาณอย่างไร โดยทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างทุจริตและโปร่งใส และขอให้มีการดูแลงบประมาณที่ถูกเสนอมาโดย ส.ส. ที่อยู่ในคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน โดยจะช่วยผลักดันโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่
นายกฯ ยังคงเดินหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง เพราะถือเป็นโครงการระดับนโยบายของรัฐบาล พร้อมพิจารณาแต่ละโครงการทำประโยชน์เพื่อประชาชนหรือไม่ ถ้าไม่ดีก็ต้องยกเลิก