นายกฯ พอใจรัฐ-เอกชนแนวทางพัฒนาตรงกัน หวังงานที่วางไว้หลายปีสำเร็จ บอก “พลเอกประวิตร” ลงพื้นที่ด้วยอย่ามองเป็นเรื่องการเมือง อยู่ครบเทอมหรือไม่เป็นกระบวนการสภาฯ ขอคนไทยรักกัน อย่าขัดแย้ง
วันที่ 1 ธ.ค.64.-ที่วังนาคินทร์ คำชะโนด จ.อุดรธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จ.อุดรธานีว่า วันนี้นายกฯ มากับรัฐมนตรีหลายท่าน หลายกระทรวงด้วยกันมาติดตามความคืบหน้าการพัฒนาของจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดอื่นๆที่เกี่ยวข้องที่มาร่วมประชุมด้วย วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างความเชื่อมโยงภายในพื้นที่ระหว่างจังหวัดและไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางบก ทางอากาศ ทางเรือ ทางรางรถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งยังมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ไม่ได้มากนัก วันนี้ได้เตรียมแผนตรงนี้ไว้แล้ว และจำเป็นจะต้องทำที่บรรจุสินค้า และเก็บสินค้าที่จะจัดส่งระหว่างที่สะพานยังสร้างไม่เสร็จ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาสร้างเส้นทางรถไฟใหม่ ที่ห่างจากเส้นเดิมซึ่งเราพัฒนาทางรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูงด้วย วันนี้เรามุ่งหวังในอนาคตถึงแม้ว่าเราจะทำช้ากว่าสปป.ลาวก็ไม่เป็นไร เพราะของเราต้องลงทุนเอง ผลประโยชน์ต่างๆ ก็จะตกอยู่ที่เราทั้งหมด ซึ่งตนเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจข้างทาง ที่ดินที่ใช้ประโยชน์จะต้องเป็นคนไทยเราถึงไม่มีสัมปทานจะต้องลงทุนเอง 2 แสนกว่าล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากจะบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของนายกฯ ซึ่งเรามีการพูดคุยกับประเทศจีน เขาก็ยอมรับกับตนว่าเป็นมิตรต่อกัน และบอกว่าไม่เคยทำกับประเทศอื่นแบบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของสัมปทาน มีแต่ของเราที่ทำแปลกกว่าของเขา ซึ่งยืนยันว่าจะเสร็จแน่นอนในช่วงปี 69-71 โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเวนคืน การส่งมอบพื้นที่ เทคโนโลยีต่างๆก็มีแต่สัญญา ซึ่งต้องทำครั้งละสัญญา เพราะต้องมีเทคนิคในการออกแบบ เมื่อไปเจอพื้นที่จริงก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนการก่อสร้าง ก็ต้องใช้เวลา ยืนยันว่าจะเปิดใช้ได้ รวมถึงการแก้ปัญหาการเชื่อมต่อที่จะทำควบคู่กันไป ทั้งในส่วนของสะพานข้ามใหม่และสะพานรถยนต์ ก็จะมีการจัดเตรียมงบประมาณไว้ในส่วนนี้
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ที่มาก็รู้สึกพอใจในการประชุมทั้งภาครัฐและเอกชน สิ่งที่ภาคเอกชนเสนอก็ตรงกับแนวทางที่รัฐบาลทำอยู่แล้ว ซึ่งภาคเอกชนได้ขอบคุณรัฐบาลว่า สิ่งที่เขาคิดเกิดขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเส้นทาง หรือทางรถไฟ การประกอบธุรกิจต่างๆ ซึ่งตนก็บอกเขาไปว่า สิ่งที่เราต้องเผชิญต่อไป คือการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการเกษตรซึ่งรายได้น้อยมาก ราคาผันผวน รัฐบาลจึงต้องใช้เงินจำนวนมาก เราสงสารเขา แต่เราจะทำยังไงที่จะเกิดตรงนี้ให้น้อยลง โดยการสนับสนุนต้นทุนการผลิต ก็ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปหารือร่วมกัน เราต้องทำทุกอย่างให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิต ชาวไร่ ชาวนา คนที่ประกอบปลูกพืช 5 ชนิด เราได้มีการประกันราคาทุกชนิด ซึ่งโชคดีราคาพืช 4 ชนิดไม่ตกมากนะ แต่ข้าวมีปัญหาหนักมาก ซึ่งนายกฯจำเป็นต้องไปปรับตัวเลขเพื่อให้ใช้เงินได้โดยไม่ผิดกฎหมาย จะทำยังไงได้ก็เป็นภาระตรงนี้ ใครจะขัดแย้งได้ เพราะเป็นความต้องการของประชาชน เป็นนโยบาย แต่ปีหน้าปีต่อไปต้องคิดใหม่ ซึ่งตรงก็ได้มอบหมายไปแล้ว
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการแก้ปัญหาความยากจนรายครัวเรือน กระทรวงมหาดไทย และคณะทำงานของพล.อ.ประวิตร ในการแก้ไขปัญหาความยากจนกำลังหารือกันอยู่ ซึ่งจะมีชุดเคลื่อนที่ที่ประกอบด้วยข้าราชการ นักศึกษา ผู้รู้ ปราชญ์ ไปสำรวจพื้นที่ว่าจนแค่ไหนอย่างไร ทั้งนี้หากสามารถทำได้ก็จะสามารถจะปรับเปลี่ยนการปลูกพืชได้ รัฐบาลจะส่งเสริมได้ไม่อย่างนั้นก็เปลี่ยนไม่ได้ แนวทางการทำเกษตรก็เหมือนอย่างเดิม วันนี้เราต้องพัฒนาไปสู่นวัตกรรมใหม่ๆ ทำแบบเดิมไม่ได้แล้ว
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนที่จ.อุดรธานีจะนำเสนอการเตรียมความพร้อมของจังหวัดอุดรธานีในการเป็นเจ้าภาพการจัดมหกรรมพืชสวนโลก 2026 ก็ได้บอกให้จังหวัดเตรียมให้พร้อมเนื่องจากเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งเราก็ต้องเตรียมนำเสนอเพื่อให้ได้รับการคัดเลือก ซึ่งจ.อุดรธานี เป็นจังหวัดสำคัญในภาคอีสานที่มีโอกาสมากที่สุด ที่รถไฟเชื่อมโยงไปถึงยุโรปตะวันออก ซึ่งหากเราทำตรงนี้ได้ ไม่ใช่ไปได้แค่ 2 ประเทศ แต่จะไปทั้งโลกจะทำให้ข้าวมีโอกาสขายได้มากขึ้นตลาดก็จะกว้างขึ้น ซึ่งวันนี้ก็มาดูว่าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวตรงไหนได้อีก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนก็มาอธิฐานขอให้ประเทศชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ปลอดภัย เพราะว่าท่านอยู่คู่แผ่นดินไทยมายาวนาน และต้องอยู่ตลอดไปชั่วกัลปาวสาน พิทักษ์ปกป้องคนไทยให้รอดปลอดภัยจากโควิด ขอให้ตนทำงานสำเร็จ ขอให้ประเทศชาติมีการพัฒนาที่เรียกว่าพลิกโฉมประเทศไทย ในการปรับเปลี่ยนทุกอย่างตามมาตรการที่เหมาะสม ตนอยากให้ทุกอย่างที่ตั้งเจตนารมณ์ไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสำเร็จ ในระหว่างที่ยังทำหน้าที่อยู่ ก็หวังว่าทุกคนจะช่วยกัน หากไม่มีอะไรที่ค้างคาเยอะแยะ ต้องทำสำเร็จไปแล้ว เพราะมันมีหลายอย่างที่ถูกทิ้งไว้ ตนก็ต้องก็ต้องมารื้อทุกวัน ไหนสิ่งใหม่ก็เกิดขึ้นได้แต่ตนไม่โทษใครทั้งสิ้น
ส่วนที่ มีหลายโครงการที่เป็นเมกะโปรเจคต้องตรวจสอบความถูกต้องอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ก็ว่ากันไปได้ทั้งหมดทุกกระทรวงต้องตอบได้ทั้งหมด และพร้อมที่ชี้แจง ถ้าบกพร่องตรงไหนก็ไปตรวจสอบมา ซึ่งตนได้เตือนและทุกท่านก็ทราบกันดีอยู่แล้ว เพราะครม.เห็นชอบร่วมกันอยู่แล้ว เกี่ยวกับหลายโครงการในสนามบินสุวรรณภูมิ บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) หรือ AOT ได้ตอบไปแล้ว
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มาอีสานก็อบอุ่น ไปไหนก็อบอุ่นเพราะอยู่ท่ามกลางคนไทยที่รักชาติ ส่วนชาวบ้านบอกให้นายกฯ อยู่ยาวๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยู่ได้แค่ไหนก็อยู่แค่นั้น ขณะที่ นับเป็นนิมิตหมายที่ดีหรือไม่เพราะพล.อ.ประวิตรได้ลงพื้นที่ด้วย นายกฯกล่าวว่า ทำไม เมื่อท่านว่างก็มา มาได้ก็มา สุขภาพท่านแข็งแรง มาได้ก็มา ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะก็ชวนรมว.มหาดไทยบ้าง พล.อ.ประวิตรบ้าง ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร วันนี้เดินไกลพล.อ.ประวิตรก็มา พอดีมีวันว่างตรงกันท่านก็มา บางเวลาท่านก็ไปงานของท่านเข้าใจหรือไม่ อย่าไปมองว่าเป็นเรื่องการเมืองอย่างเดียวเลย ขอร้อง ทั้งนี้คนอีสานสนับสนุนให้นายกฯอยู่ต่อ ทำให้นายกฯมีกำลังใจมากขึ้นหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าก็ต้องมีสิ จะไม่มีได้อย่างไร
จากนั้นพลเอกประยุทธ์ได้เดินไปพบปะทักทายประชาชน วิสาหกิจชุมชน อสม.ชาวอีสาน 20 จังหวัด กว่า 200 คนที่นำโดยนายอานนท์ แสนน่าน อดีตผู้ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ซึ่งชาวบ้านได้ชูป้ายและส่งเสียง ให้กำลังใจนายกฯเป็นภาษาอีสาน ว่า “ลุงตู่สู้ๆ เรารักลุงตู่ เฮาแพงลุงตู่ ฮักลุงตู่หลายๆ เฮาแพงลุงตู่ ขอลุงตู่อยู่อีกสมัย ลุงตู่อยู่ยาวๆ” โดยนายกฯกล่าวว่า บันทึกเทปไว้แล้วนะว่าใครพูดอะไรบ้าง และขอให้สู้ไปด้วยกัน รักคนไทยทุกคน ขอให้ทุกคนรักกัน เราคนไทยจะไม่ทิ้งกัน พร้อมกล่าวว่าขอให้หมู่เฮารักกัน และขอบคุณหมอ พยาบาล อสม.ที่ช่วยกันแก้ไขปัญหาโควิด19
ทั้งนี้นายกฯได้กล่าวกับประชาชนที่มาส่งว่า ทุกคนต้องช่วยกัน ยืนยันว่าไม่มีอะไรหรอก รัฐบาลตั้งใจทุกอย่าง ขอเพียงอย่าขัดแย้งซึ่งกันและกัน นายกฯเองก็ตั้งใจมาก ขอฝากทุกคน ขอให้ทุกคนปลอดภัย และโอกาสหน้าจะมาเยี่ยมเยียนอีกครั้ง โดยบรรยากาศถือว่าเป็นไปอย่างคึกครื้นอบอุ่น ทำให้พลเอกประยุทธ์ ยิ้มกว้างและได้รับกำลังใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนเดินทางกลับ