รมว.เกษตรฯเผยส่งออกผลไม้สูงสุดเป็นประวัติการณ์เฉพาะทุเรียนพุ่งแสนล้าน เผยปีนี้ผลผลิตเพิ่มกว่า 5 แสนตัน พร้อมสั่งเตรียมพร้อมรับมือฤดูผลไม้ของไทยที่กำลังออกผล
เมื่อวันที่ 26 มกราคม ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้(Fruit Board) เปิดเผยถึงผลดำเนินงานบริหารจัดการผลไม้ปี 2564-2565 ว่า ในปี 2564 สามารถส่งออกผลไม้สูงสุดเป็นประวัติการณ์เฉพาะทุเรียนขายทะลุหนึ่งแสนล้านบาทเป็นครั้งแรก แม้เผชิญปัญหาการขนส่งโลจิสติกส์จากค่าระวางที่สูงขึ้น การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และการปิดด่านหลายครั้งจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด19 ความสำเร็จดังกล่าวมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งชาวสวนผลไม้ ผู้ประกอบการภาคเอกชนและภาครัฐที่ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคในปีที่ผ่านมาและสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศชาติจากการส่งออกทำสถิตินิวไฮ
ทั้งนี้ 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ของปี 2564 ส่งออกผลไม้ 7 ชนิดได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย ลิ้นจี่ และมะม่วง จำนวน 1,992,751 ตันคิดเป็นมูลค่า 165,624 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 40.75% เทียบกับปี 2563 ที่ส่งออก 1,718,228 ตันมูลค่า 117,673 ล้านบาท สำหรับทุเรียนส่งออก 903,700 ตัน คิดเป็นปริมาณเพิ่มขึ้น 38.29% คิดเป็นมูลค่า 115,459 ล้านบาทเติบโต 59.11% เทียบกับปี 2563 ส่งออก 653,476 ตันมูลค่า 72,566 ล้านบาท โดยฤดูกาลผลิตปี 2565 จะมีผลผลิตออกมา 5,200,009 ตันเพิ่ม 11.39% หรือเพิ่มกว่า 5 แสนตันเทียบกับปี 2563 ที่มีปริมาณ 4,668,435 ตันซึ่งเป็นตัวเลขจากกรมศุลกากร
ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือผลไม้ที่จะเริ่มต้นฤดูในเดือนมี.ค.ที่จะถึงนี้จึงมอบนโยบายให้ฟรุ้ทบอร์ดกำหนดมาตรการล่วงหน้าโดยมอบหมายนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบทาง
อลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ กล่าวว่า คณะทำงานฯได้กำหนด 5 มาตรการ 21 โครงการ สำหรับบริหารผลไม้ในภาวะวิกฤติเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการจัดทำแผนและโครงการต่างๆและเมื่อวันเสาร์ที่ 23 มกราคมที่ผ่านมาได้จัดการประชุมทางไกลกับสมาคมทุเรียนไทย ตัวแทนแปลงใหญ่ทุเรียนจังหวัดระยอง สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียน สมาคมผู้ผลิตทุเรียนไทย สถาบันทุเรียนไทย หอการค้าจังหวัดจันทบุรี สมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ ตัวแทนเกษตรกรและผู้ประกอบการภาคตะวันออก นายชรัตน์ เนรัญชรและนายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ.ระยอง สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ สำนักงานวิจัยและพัฒนาการการเกษตรเขตที่ 6 อธิบดีกรมวิขาการเกษตร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง เกษตรและสหกรณ์จังหวัดจันทบุรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด หน่วยงาน EEC และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเพิ่มเติมรองรับผลไม้ภาคตะวันออก
อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอแนะที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์อย่างมาก เช่น ข้อเสนอให้เร่งจัดทำมาตรฐาน zero covid ทุเรียนที่มีงานวิจัยรองรับโดยกำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ชัดเจนและสื่อสารกับจีนเพื่อสร้างความมั่นใจกับจีนและประเทศลูกค้าอื่นๆ การใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับ(Traceability)การหารือกับจีนในการขนส่งบนเส้นทางรถไฟจีน-ลาวโดยการปิดตู้ที่ประเทศลาว และ ส่งไปคุนหมิงเลยโดยไม่ต้องแวะตรวจที่ด่านโมฮ่านเพื่อให้สามารถส่งทุเรียนและผลไม้เศรษฐกิจอื่นๆทางรางได้ตั้งแต่เดือน มีนาคมปีนี้ ตลอดจนข้อเสนอให้ประชุมหารือกับประเทศจีน ลาวและเวียดนามเพื่อตกลงมาตรการร่วมกันเรื่อง protocol ในการเปิด-ปิดด่านชายแดนต่างๆรวมทั้งข้อเสนอให้ด่านมี Green Lane สำหรับผลไม้ไทยเป็นการเฉพาะรวมทั้งปัญหาการทำ GAP ที่ชาวสวนต้องจ่ายมากขึ้นว่าจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไรเมื่อใดรวมทั้งข้อพิจารณาเรื่องการเยียวยาชาวสวนลำไยในฤดูกาลที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ตนจะนำคณะเดินทางไปหนองคายและอุดรธานีเพื่อหารือกับผู้ประกอบการ 3 ประเทศไทย-จีน-ลาว เรื่องการขนส่งสินค้าเกษตรของไทยบนเส้นทางรถไฟจีน-ลาวในวันที่ 27 มกราคมนี้ สำหรับความคืบหน้าในเรื่อง GMP นายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการ สวพ.6 ได้รายงานในที่ประชุมว่า ปัจจุบันได้มีการอบรม มาตรฐาน GMP plus ให้กับล้งไปแล้วกว่า 400 แห่ง และ ดำเนินการป้องกันปัญหาทุเรียนอ่อนอย่างจริงจังเพื่อยกระดับคุณภาพของทุเรียนในปีนี้