“เอนก” ดัน U2T for BCG หวังโชว์โมเดลเศรษฐกิจใหม่ในที่ประชุมเอเปค เปิดลงทะเบียนออนไลน์รับบัณฑิตจบใหม่และประชาชน 68,350 คน ร่วมโครงการ U2T for BCG

Mummai Media

 “เอนก” ดัน U2T for BCG หวังโชว์โมเดลเศรษฐกิจใหม่ในที่ประชุมเอเปค เปิดลงทะเบียนออนไลน์รับบัณฑิตจบใหม่และประชาชน 68,350 คน ร่วมโครงการ U2T for BCG

ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ได้ประชุมมอบนโยบายโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG(U2T for BCG and Regional Development)” หรือโครงการ “มหาวิทยาลัยสู่ตำบล U2T for BCG” หลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2562 โดยจะดำเนินการในช่วงเดือน ก.ค. – ก.ย.นี้ ในพื้นที่ 7,435 ตำบล ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ

 “เอนก” ดัน U2T for BCG หวังโชว์โมเดลเศรษฐกิจใหม่ในที่ประชุมเอเปค เปิดลงทะเบียนออนไลน์รับบัณฑิตจบใหม่และประชาชน 68,350 คน ร่วมโครงการ U2T for BCG

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว. กล่าวว่า โครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล U2T for BCG เป็นโครงการที่ทุกคนรอคอยและเป็นที่ต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง นี่คือโครงการที่ใหญ่ที่สุดของ อว. ที่จะดำเนินการครอบคลุมทั่วประเทศ ทุกตำบล รวมทั้งทุกแขวงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะใช้เวลาดำเนินการ 3 เดือน ตั้งแต่ ก.ค.- ก.ย. 65 และจะโฟกัสเรื่องเดียวคือ BCG เท่านั้น เพราะเป็นวาระสำคัญของประเทศไทยที่จะเชื่อมโยงไปถึงการประชุมเอเปค ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือน พ.ย. นี้ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในรอบ 20 ปีมีครั้ง และ BCG คือหนึ่งในวาระสำคัญของการประชุมเอเปคที่ประเทศไทยจะนำเสนอ ดังนั้น อว.จะนำผลงาน U2T for BCG ไปโชว์ให้กับผู้นำแต่ละประเทศได้เห็นถึงโมเดลทางเศรษฐกิจใหม่ของไทยที่ขับเคลื่อนด้วย BCG

รมว.อว.กล่าวต่อว่า U2T for BCG จะเป็นการรวมพลังของมหาวิทยาลัยรัฐกว่า 70 แห่ง และมหาวิทยาลัยเอกชนกว่า 20 แห่ง ทำร่วมกับบัณฑิตจบใหม่และประชาชนในพื้นที่กว่า 68,350 คน ซึ่งโครงการนี้จะต้องทำให้ประชาชนเห็นว่า อว.เป็นคนทำ และให้เห็นภาพของรัฐบาลในการสนับสนุน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งใจที่จะผลักดันงบประมาณที่เป็นงบกลางมาให้ อว. ดำเนินโครงการนี้ ในช่วงเวลา 3 เดือน ดังนั้น 3 เดือนจากนี้เป็นต้นไป โครงการ U2T for BCG ต้องทำให้มาก ให้ดี ให้เร็วและประหยัด และจะไม่ทำซ้ำกับโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ (U2T) ที่สำคัญ U2T for BCG จะทำให้ผู้ร่วมโครงการกลายเป็นคนที่สามารถ ซึ่งเกิดจากการทำงานกับผู้คนและสังคม ทำให้ได้ทั้งวิชางาน วิชาชีวิต  เปลี่ยนความเก่งและดีที่มีอยู่ให้กลายเป็นความสามารถให้ได้

 “เอนก” ดัน U2T for BCG หวังโชว์โมเดลเศรษฐกิจใหม่ในที่ประชุมเอเปค เปิดลงทะเบียนออนไลน์รับบัณฑิตจบใหม่และประชาชน 68,350 คน ร่วมโครงการ U2T for BCG

ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว.กล่าวชี้แจงแนวทางการดำเนินงานว่า อว.จะเปิดรับบัณฑิตจบใหม่และประชาชนในพื้นที่ กว่า 68,350 คน ที่ต้องการเข้ามาร่วมเป็นทีม อว. โดยทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย ภาคประชาสังคม หน่วยงานในพื้นที่ และภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการขับเคลื่อนโครงการ U2T for BCG เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากเป็นรายตำบลทั่วประเทศ โดยกรอกข้อมูลผ่านระบบกลางออนไลน์ของ อว. แล้วจะเชื่อมโยงข้อมูลให้มหาวิทยาลัยที่รับผิดชอบแต่ละตำบลเป็นผู้คัดเลือก หลังจากนั้นจะแบ่งการลงพื้นที่เพื่อทำงานร่วมกับชุมชนในพื้นที่ 3 พันตำบลเดิม ตำบลละ 8 คน ขณะที่ในอีก 4,435 ตำบลใหม่ ได้ตำบลละ 10 คน เพื่อทำหน้าที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการของชุมชน โดยจะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและบริการ การส่งเสริมการขยายและการตลาด การพัฒนาสินค้าและบริการให้มีมูลค่าสูง การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการ การขนส่งและกระจายสินค้า ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของโครงการฯ คาดว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของชุมชนที่ได้มาตรฐานและได้ออกสู่ตลาด จะมียอดขายเพิ่มขึ้นหรือการบริโภคเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์

“โครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล หรือ U2Tได้รับความชื่นชมจากทุกภาคส่วน ไม่เพียงเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการ ซึ่งขณะนี้จะมุ่งเน้นด้าน BCG ในพื้นที่ แต่ยังเป็นการพัฒนากำลังคนของประเทศไทยให้มีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการทำงานในปัจจุบันและทักษะที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ BCG ด้วย” ปลัด อว.กล่าว

 “เอนก” ดัน U2T for BCG หวังโชว์โมเดลเศรษฐกิจใหม่ในที่ประชุมเอเปค เปิดลงทะเบียนออนไลน์รับบัณฑิตจบใหม่และประชาชน 68,350 คน ร่วมโครงการ U2T for BCG

ขณะที่ ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัด อว. กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. นี้ อว.จะเปิดให้บัณฑิตและประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการร่วมโครงการ U2T for BCG ลงทะเบียน ผ่านทางเว็บไซต์ http://u2t.ac.th ก่อนที่จะกระจายกำลังลงไปทำงานในทุกตำบลต่อไป.

ทั้งนี้ที่ประชุม ครม. (14 มิ.ย. 65) เห็นชอบโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG and Regional Development) ใน 7,435 ตำบลทั่วประเทศ วงเงินรวม 3,566.28 ล้านบาท เพื่อจ้างงานประชาชนและบัณฑิตจบใหม่กว่า 68,350 คน ร่วมขับเคลื่อนภาคการผลิตและบริการในพื้นที่ด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ตั้งเป้าเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท/เดือน 

.

 “เอนก” ดัน U2T for BCG หวังโชว์โมเดลเศรษฐกิจใหม่ในที่ประชุมเอเปค เปิดลงทะเบียนออนไลน์รับบัณฑิตจบใหม่และประชาชน 68,350 คน ร่วมโครงการ U2T for BCG

กลุ่มเป้าหมาย :

✅บัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 5 ปี/ ผู้ที่ถูกเลิกจ้าง/ ประชาชน ผ่านการจัดกิจกรรมกว่า 15,000 กิจกรรม ทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการผลิตและบริการเพื่อเพิ่มคุณภาพ – ลดต้นทุน การจัดการตลาด การจับคู่ธุรกิจ การกระจายสินค้าและบริการ เป็นต้น โดยสถาบันอุดมศึกษาในแต่ละพื้นที่ (ตำบล) จะเป็นผู้บูรณาการระบบในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG ในพื้นที่ พร้อมใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลชุมชนขนาดใหญ่ (Thailand Community Big Data: TCD) ในการวางแผนและพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน

.

การจ้างงาน :

📍พื้นที่ 3,000 ตำบล จะต่อยอดจากโครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย จำนวน 8 คน/ตำบล (บัณฑิตจบใหม่ 4 คน และผู้ที่ถูกเลิกจ้าง – ประชาชนในพื้นที่ 4 คน)

📍พื้นที่ 4,435 ตำบลใหม่ จำนวน 10 คน/ตำบล (บัณฑิตจบใหม่ 5 คน และผู้ที่ถูกเลิกจ้าง – ประชาชนในพื้นที่ 5 คน)

🗓ระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน เริ่ม 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 65