“อนุชา” ลงพื้นที่นครนายก เดินหน้าโครงการ “โคล้านครอบครัว” ย้ำตลาดโคเนื้อโตอย่างต่อเนื่อง ด้านน้ำ-รพีภัทร อดีตพระเอก ระบุอาชีพเกษตร-ปศุสัตว์ ต้องคิดพลิกแพลง หมั่นหาความรู้ ช่วยสร้างสุขในครอบครัว
วันนี้ (2 พฤษภาคม 2566) ณ กองทุนหมู่บ้านบางหอย หมู่ที่ 9 ตำบลบางสมบูรณ์ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เป็นประธานเปิดงาน “สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง” ภายใต้โครงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก เพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน โดยมีนายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ฯ และสื่อมวลชนร่วมงาน
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป้าหมายของประเทศ คือ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อให้ประเทศมีขีดความสามารถในการแข่งขัน มีรายได้สูงอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว คนไทยมีความสุข อยู่ดีกินดี สังคมมีความมั่นคง เสมอภาคและเป็นธรรม ซึ่งเศรษฐกิจของประเทศจะดีขึ้นได้ เศรษฐกิจฐานรากต้องดีก่อน อาชีพปศุสัตว์ เป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการเลี้ยงโค เป็นอาชีพที่ใช้ต้นทุนน้อย สามารถขายทำกำไรได้ตามความต้องการ เลี้ยงโคไม่มีขาดทุน เพราะโคกินหญ้าที่หาได้ตามชุมชน เพียงแค่สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ อดทน ตั้งใจ เลี้ยงภายใน 3 ปี สามารถคืนทุนได้แล้ว ที่สำคัญการผลิตโคเนื้อ ณ ปัจจุบันนี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
จากข้อมูลการผลิตโคเนื้อปี 2566 คาดว่ามีปริมาณการผลิต 1.495 ล้านตัว หรือ 251 พันตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 4.96 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 คลี่คลายลง ทำให้ธุรกิจภาคบริการ และการท่องเที่ยวสามารถดำเนินการได้ตามปกติ ส่งผลต่อความต้องการโคเนื้อของตลาดในประเทศและต่างประเทศยังมีอย่างต่อเนื่อง
ด้าน น้ำ-รพีภัทร เอกพันธ์กุล อดีตพระเอกชื่อดัง ได้ผันตัวเองสู่อาชีพเกษตรกรเต็มตัว ตามวิถีเกษตรกรไทย โดยใช้ “แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เผยว่า การทำเกษตร-ปศุสัตว์ ต้องคิดพลิกแพลง อย่าทำอย่างเดียว ควรแบ่งพื้นที่ทำเกษตรส่วนหนึ่ง ทำปศุสัตว์ส่วนหนึ่ง หมั่นศึกษาหาความรู้ซึ่งหาได้ง่าย เดี๋ยวนี้โลกเปิดกว้างเพียงเข้าอินเทอร์เน็ต ความรู้ก็มีอยู่ทุกที่ให้เราได้ศึกษา อาชีพเกษตรกร-ปศุสัตว์ทำให้ตนเองได้อยู่กับครอบครัว มีเงินเก็บ มีความสุข มีความสบายใจ นอกจากสร้างรายได้ให้กับครัวเรือนด้วยอาชีพเกษตรกร-ปศุสัตว์แล้ว ที่สำคัญผมยังได้แบ่งปันความรู้และอาชีพให้น้องชาวนครนายกได้มีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้อีกด้วย อาชีพบันเทิงทำให้ตนเองมีความสุข แต่อาชีพอาชีพเกษตรกร-ปศุสัตว์ ทำให้ผมมีความสุขกาย สบายใจ
เช่นกันสำหรับการจัดงาน“สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง”ครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดงานครั้งที่ 6 โดยมี กลุ่มเป้าหมายหลัก จากสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ฯ ในพื้นที่รับผิดชอบ 9 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ, สระแก้ว เข้าร่วมกิจกรรมอัพเดทองค์ความรู้มากมาย ได้แก่ กิจกรรมเสวนาโดยกองทุนหมู่บ้านต้นแบบ “ทำแล้ว ทำง่าย ทำได้…ไม่ยาก” โดยกองทุนหมู่บ้านคลองขุด หมู่ที่ 8 ตำบลบางสมบูรณ์ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Up Skill เรื่อง โคล้านครอบครัวรวมถึงกิจกรรม Business Matching และยังมีนิทรรศการให้ความรู้จาก กทบ.
สำหรับการจัดงานครั้งที่ 7 ขอเชิญชวนสมาชิกกองทุน ฯ จังหวัดนครพนม และพื้นที่ใกล้เคียง มาร่วมงานเพื่อนำองค์ความรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จนำไป พัฒนา ต่อยอดให้คนในครอบครัว รวมถึงชุนชนมีรายได้ที่มั่นคง โดยงานจัดขึ้นในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ณ จังหวัดนครพนม