ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย หรือกลุ่มคนร้ายจบข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ดำเนินการระดมกวาดล้างคนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เป็นเวลา 3 เดือน
ในการนี้ พล.ต.ต.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ หน่วยงานในสังกัดเข้มงวดในการป้องกันปราบปรามบุคคลต่างด้าวลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมให้ดำเนินการขยายผลจับกุมผู้นำพา ผู้ช่วยเหลือและผู้ร่วมขบวนการจนถึงที่สุดตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ศราวุธ วะเท ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ หรือความผิดตามกฎหมายอื่น
เมื่อวันที่ 6 ก.ค.66 ชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบย่านช้างเผือก ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือกว่าสิทธิที่จะทำได้”และ “เป็นนายจ้างรับบุคคลต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน”
โดยเป็นผู้จัดการดูแลร้านอาหาร และบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 10 ราย ข้อหา“เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานหรือทำงานนอกเหนือสิทธิที่จะทำได้” ซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างในร้านอาหารดังกล่าว โดยชาวเมียนมาทั้ง 10 ราย ให้การว่า ได้หลบหนีเข้ามาและแอบทำงานในร้านอาหารดังกล่าว ผ่านการชักชวนของนายจ้างชาวเมียนมา ได้รับค่าจ้างเดือนละ 8,000 บาท และลักลอบทำงานนานกว่า 1 ปี ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด