ในการสัมนาเรื่อง “วันนี้ประเทศไทยเกิดอะไรขึ้น?”ที่โรงแรมบาซาร์ รัชดากรุงเทพ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์และอดีตรัฐมนตรีอดีต ส.ส.6สมัย กล่าวในหัวข้อ“ทิศทางการเมืองไทย”ว่า ประเทศกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติศรัทธาเพราะประชาชนขาดความเชื่อมั่นในระบบการเลือกตั้งและไม่มั่นใจในจุดยืนอุดมการณ์ของพรรคการเมืองรวมทั้งประเด็นปัญหากระบวนการยุติธรรมกรณีอดีตนายกฯ.ทักษิณ
ประเด็นประชาชนขาดความเชื่อมั่นในระบบการเลือกตั้งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ระดับรากฐานของระบอบประชาธิปไตยเพราะการเลือกตั้งเป็นหัวใจของระบอบประชาธิปไตย แต่ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคที่ชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่งและรวมเสียงได้เกินกว่าครึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ จนมีคำถามว่า“แล้วจะมีเลือกตั้งไปทำไม ?”“ทำไมถึงไม่เคารพเสียงของประชาชน?”
ยิ่งกว่านั้น พรรคการเมืองที่อยู่คนละขั้วประกาศในระหว่างหาเสียงว่าจะไม่จับมือกันกลับไม่รักษาคำพูดโดยร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลทำให้เกิดคำถามถึงจุดยืนและอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคแกนนำรัฐบาลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อระบบพรรคการเมืองโดยตรง
การเลือกตั้งและพรรคการเมืองมีความสำคัญต่อระบอบประชาธิปไตย หากประชาชนโดยเฉพาะผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกขาดความเชื่อมั่นก็ยากต่อการพัฒนาการเมืองในอนาคต
นายอลงกรณ์ยังกล่าวต่อไปว่า ในปีนี้จะมีเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองที่จะส่งผลต่อปัจจุบันและอนาคตของการเมืองไทยได้แก่
1. การเลือกส.ว. ชุดใหม่
2.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
3.การตรากฎหมายนิรโทษกรรม
4.การปรับคณะรัฐมนตรี
5.คดียุบพรรคก้าวไกล
6. ปัญหากระบวนการยุติธรรมจากกรณีอดีตนายกฯ.ทักษิณ
สำหรับเรื่องการยุบพรรคนั้น นายอลงกรณ์ไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคโดยมีความเห็นว่าพรรคการเมืองเป็นองค์กรทางการเมืองที่ประกอบไปด้วยสมาชิกพรรค สาขาพรรคและตัวแทนพรรค การลงโทษใดๆควรดำเนินการกับกรรมการหรือคณะกรรมการบริหาร
ส่วนกรณีอดีตนายกฯ.ทักษิณกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและหลักนิติรัฐของประเทศอย่างร้ายแรง
ข้อแนะนำคืออดีตนายกฯ.ทักษิณเมื่อกลับเข้ามายอมรับความผิดต้องสำนึกผิดอย่างแท้จริงและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงลดโทษให้ด้วยการเคารพกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมโดยเซทซีโร่เดินกลับเข้าคุกเริ่มต้นขั้นตอนการลงโทษเหมือนนักโทษคนอื่นๆจะเป็นตัวอย่างที่ดีของกระบวนการยุติธรรมของประเทศ
นายอลงกรณ์ยังกล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่าได้สรุปบทเรียนความผิดพลาดในอดีตโดยเฉพาะประเด็นจุดยืนและอุดมการณ์ที่ถูกมองว่าพรรคละทิ้งอุดมการณ์ประชาธิปไตยไปร่วมกับเผด็จการและสนับสนุนการสืบทอดอำนาจจนมีข้อกล่าวหาว่าจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารกระทบต่อความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพรรคประชาประชาธิปัตย์สะท้อนจากผลการเลือกตั้งปี2562และ2566จากพรรคที่มี ส.ส.กว่า100คนเหลือเพียง25คน หลายพรรคการเมืองในวันนี้กำลังตกอยู่ในกับดักที่ประชาธิปัตย์เคยประสบมาก่อน เมื่อใดที่ประชาชนไม่เชื่อมั่น เมื่อนั้นพรรคการเมืองก็ไม่มีอนาคต
”บทเรียนความผิดพลาดในอดีตที่ต้องจ่ายด้วยราคาแพงเป็นบทเรียนสำคัญ วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เหมือนเงาะถอดรูป พรรคประชาธิปัตย์กำลังวางปัจจุบันและอนาคตบนแนวทางประชาธิปไตย ความซื่อสัตย์สุจริต วิสัยทัศน์ก้าวหน้าและนโยบายทันสมัยโดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคได้แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ทำหน้าที่กำหนดทิศทางและแนวทางการขับเคลื่อนพรรคสู่การเป็นสถาบันทางการเมืองที่แท้จริงของประเทศเน้นการเปิดกว้างสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน หวังว่าความพยายามครั้งนี้ของพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถฟื้นฟูศรัทธากลับมาด้วยโอกาสใหม่ที่ประชาชนมอบให้“.
การสัมนาเรื่อง “วันนี้ประเทศไทยเกิดอะไรขึ้น?”ที่โรงแรมบาซาร์ รัชดากรุงเทพ จัดโดยหนังสือพิมพ์ไทยแลนด์ ทูเดย์ นิวส์เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567.