เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายอำพล แก้วปาน ทนายความผู้รับมอบอำนาจ นายเฉลิม อยู่วิทยา นักธุรกิจชาวไทย เจ้าของธุรกิจกระทิงแดง และผู้ร่วมก่อตั้งเรดบูล เดินทางมา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร สมาชิกวุฒสภา อดีต ผบช.น. นางสาวอุบลรัตน์ เถาว์น้อย พิธีกรช่องทีวีช่องดังเเห่งหนึ่งในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าสินไหมทดแทนจำนวน 50 ล้านบาท
คำฟ้องระบุพฤติการณ์ระบุว่าเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2567 จำเลยทั้งสอง จำเลยที่ ซึ่งเป็นพิธีกรและ ผู้ประกาศข่าวในช่องรายการโทรทัศน์ และมีจำเลยที่ 2 เป็นแขกรับเชิญออกรายการอันมีเนื้อหาที่เป็นการหมิ่นประมาท โดยมีการโฆษณาด้วยการบันทึกเสียงและภาพ และได้นำคลิป วีดีโอ หรือภาพยนตร์ หรือสิ่งบันทึกเสียงและภาพไปกระจายเสียงและภาพในแอปพลิเคชัน TIKTOK
ชื่อผู้ใช้งาน bonratbonrat ของจำเลยที่ 1มีผู้ติดตามมากกว่า 26,900 คน มีผู้ถูกใจมากกว่า 219,1000คน และบางคลิปวีดีโอมีผู้ชม มากกว่า 1,400,000 วิว เป็นแพลตฟอร์ม Social Media ที่บุคคล ทั่วไปและสาธารณะชนจากทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้าถึงได้ โดยจำเลยที่ 1ชึ่งเป็นพิธีกร ได้พาดหน้าคลิปวีดีโอ หรือ ภาพยนตร์ หรือสิ่งบันทึกเสียงและภาพว่า
“ฉาวโฉ่!!อันเป็นการใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สามโดยปราการที่น่าจะเกิดความเสียหาบว่า ! จ่ายกันหนัก.. 300ล้านวิ่งเต้น “คดีบอส” คดีเด็ด สวแฉ นักการเมือง ตำรวจอัยการ คดีบอสไม่จบ เพราะมันมีการบิดเบี้ยวคดี บิดเบือนข้อเท็จจริงว่า กูเนี่ยเสียเงินไปตั้งแค่นี้ ๓๐๐ กว่ากิโลเนี่ย ลูกกูเป็น…จำเลย เงินมันไปอยู่ที่ไหน….ท่านผู้ชมลองคิด เป็นการบ้าน”
อันเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง ว่าโจทก์ได้วิ่งเต้นช่วยเหลือนายวรยุทธ อยู่วิทยา ในคดีอุบัติเหตุจราจรรถชน ระหว่าง นายวรยุทธ อยู่วิทยา กับ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ให้พ้นความรับผิดตามกฎหมาย โดยรู้อยู่แล้วว่าข้อความดังกล่าวข้างต้นนั้นปราศจากมูลความเป็นจริง โดย การกระทำของจำเลยทั้งสอง ทำให้ โจทก์ได้รับความเสียหาย ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อวงค์ตระกูลที่สร้างสมมา ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง อันเป็นการหมิ่น ประมาทโจทก์โดยการโฆษณา
โดยขอให้จำเลยทั้งสองต้องร่วมกันโฆษณาหรือประกาศคำพิพากษาของศาล และคำขออภัยโจทก์ลงใน เว็บไซท์ท็อปนิวส์และในรายการข่าวของรายการโทรทัศน์ TOP NEWS และ ในแอปพลิเคชัน TIKTOK ชื่อ หมิว อุบลรัตน์ ชื่อผู้ใช้งาน bonratbonrat หนังสือพิมไทยรัฐ, เดลินิวส์, มติชน, ผู้จัดการรายวัน ด้วยเนื้อที่เต็มของหน้าหนังสือพิมพ์ เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน และให้ลบข้อความและคลิปวีดีโอ หรือภาพยนตร์ หรือ สิ่งบันทึกเสียงและภาพดังกล่าวออกจาแอปพลิเคชัน TIKTOK ชื่อ หมิว อุบลรัตน์ ชื่อผู้ใช้งาน bonratbonrat ทันที
ศาลอาญาได้รับคำฟ้องเป็นคดีอาญาหมายดำที่ 1642/2567 เเละนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 2 กันยายน 2567เวลา 13.30 น.
นายอำพล แก้วปาน ทนายความผู้รับมอบอำนาจ นายเฉลิม กล่าวภายหลังยื่นฟ้องว่า รายการนี้มี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร เป็นแขกรับเชิญได้มีการบันทึกคลิป VDO แล้วนำไปเผยแพร่ใน TIKTOK
โดยพาดข้อความบนคลิปที่ทำให้ผู้ที่รับชมรับฟังเชื่อว่านายเฉลิมจ่ายเงิน 300ล้านบาท เพื่อวิ่งเต้น
ช่วยเหลือนายวรยุทธ อยู่วิทยาทั้งที่ความจริงแล้วนายเฉลิมไม่เคยพูดและไม่เคยจ่ายเงิน300ล้านบาท เพื่อวิ่งเต้นคดีแต่อย่างใด การกระทำของทั้งสองทำให้ชื่อเสียงและคุณความดีของนายเฉลิมที่สร้างสมมาต้องเสียมเสีย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังจึงได้ฟ้องจำเลยทั้งสองในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งตอนนี้ทีมทนายกำลังดูในส่วนของผู้ที่เข้ามาคอมม้นท์และแชร์คลิปหากทำให้นานเฉลิมเสียหายก็อาจจะมีการฟ้องคดีเพิ่มเติมอีก สำหรับคดีนี้เราเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาทซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับชื่อเสียงและคุณความดีของนายเฉลิมก็ถือว่าไม่เยอะครับ
ส่วนที่ถามเรื่องหากมีการขอไกล่เกลี่ยจะยอมความหรือไม่นั้น คงไม่มีการยอมความ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา มีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนข้อเท็จจริง
ในคดีคุณวรยุทธ อยู่วิทยา หลายเรื่อง ทำให้เกิดกระแสสังคมเข้าใจผิดมาตลอด เช่นกรณีที่กล่าวหาว่ามีการลากศพผู้เสียชีวิตไป 200 เมตร มาตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งประเด็นนี้คณะทำงานของสำนักงานอัยการสูงสุดได้ชี้แจงต่อกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อปี 2563 ไปแล้วว่าผลการชันสูตรพลิกศพไม่มีร่องรอยและบาดแผลที่เกิดจากการลากศพไปกับถนนตามที่มีการให้ข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริงแต่อย่างใด การที่นายเฉลิมฯ ฟ้องในครั้งนี้ก็เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ในการฟ้องดำเนินคดีกับบุคคลที่ชอบบิดเบือนข้อเท็จจริงนอกจากนี้ ถ้าพบว่ามีบุคคลใดให้ข้อมูลในลักษณะนี้อีกก็จะดำเนินคดีเช่นกันเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเองและครอบครัวเท่านั้น โดยในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องก็เตรียมพยานขึ้นไต่สวนไว้