แจ้ง 2 ข้อหาหนัก คนขับรถบัสไฟไหม้ ครู–นักเรียน ดับ 23 ศพ อ้างตกใจเลยหนี ส่วนการดำเนินคดีเจ้าของรถ ต้องรอตรวจสอบสภาพรถก่อนแจ้งข้อหา
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 1 ต.ค. 2567 พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รองผบช.ภ. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ธนายุทธ จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เดินทางมาสอบปากคำ นายสมาน จันทร์พุฒ อายุ 48 ปี คนขับรถบัสที่นำนักเรียนไปทัศนศึกษาและเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ไฟลุกไหม้รถบัสทั้งคันทำให้มีเด็กนักเรียนและครูเสียชีวิต รวม 23 ราย และบาดเจ็บอีก 3 รายยังรักษาตัวในโรงพยาบาล
พล.ต.ต.ชยานนท์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์รรท.ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 1 และตำรวจจังหวัดปทุมธานีเร่งติดตามตัวผู้ขับขี่นายสมาน จันทร์พุฒ มาดำเนินคดี ซึ่งได้ติดตามไปพบที่บ้านภรรยาที่ จ.อ่างทอง ซึ่งได้ประสานงานและผู้ต้องหาได้เข้าพบตำรวจ สภ.วิเศษชัยชาญ และนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.คูคต
พล.ต.ต.ชยานนท์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา 1.ขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
2.ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล แล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ไม่แสดงตัวและไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43(4), 78, 157, 160วรรค 2
พล.ต.ต.ชยานนท์ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จะนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะสอบสวนผู้ต้องหาเกี่ยวกับข้อหาที่แจ้งไปทั้งหมด ส่วนทางเจ้าของรถนั้น ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสภาพรถและจะพิจารณาข้อหาอีกครั้ง
พล.ต.ต.ชยานนท์ กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำนายสมาน ให้การว่าขับรถมาเป็นคันที่ 2 ความเร็วประมาณ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถเสียหลักคล้ายตกหลุม แล้วยางระเบิดหรือถุงลมแตกไม่แน่ใจ จากนั้นล้อหน้าเกิดดึงไปทางขวา ทำให้ไปเฉี่ยวชนกับรถเบนซ์คนขับพยายามบังคับรถ ก่อนตัวรถไปครูดกับแบริเออร์ด้านขวา
ส่วนหลังจากเกิดเหตุที่หนีไปนั้น ทางผู้ต้องหาให้การว่า หลังเกิดเหตุเขาวิ่งไปเอาถังดับเพลิงจากรถคันหลังมาช่วยฉีด จากนั้นก็ตกใจและหนีไปบ้านญาติ