“ดร.ณัฏฐ์” ฟาด “เสธฯหิ” สับสนระหว่างนักรบพลังงาน“พีระพันธุ์”ทำตามหน้าที่ กับกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ คนละส่วนกัน ส่วน”นักบุญ ทุนหลวง“ แจกถุงยังชีพ ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ใครไปกลั่นแกล้ง!!!
วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 สืบเนื่องนายหิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ “ผลงานเป็นที่ประจักษ์” ชูผลงานชิ้นโบว์แดง “ฝ่าอุปสรรค ลดค่าไฟ-สร้างความมั่นคงพลังงาน” ไม่แปลกใจถูกโจมตี ทำลายชื่อเสียงจากผู้เสียประโยชน์ หวังเขี่ยพ้นตำแหน่ง ยันทำหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย
ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชนคนดัง ได้กล่าวถึงในประเด็นดังกล่าวว่า การทำหน้าที่รัฐมนตรีผลงานที่ประจักษ์ที่ผ่านมาเห็นเกือบทุกรัฐบาล เมื่อดำรงตำแหน่งแล้ว ย่อมใช้ความรู้ความสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลง ในรัฐบาลผสมหลายพรรค เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ ไม่มีรัฐมนตรีคนไหน มาทวงบุญคุณกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะนักรบพลังงาน นายพีระพันธุ์ฯ ทำตามอำนาจหน้าที่ มิใช่หรือ ตนแปลกใจว่า การทำหน้าที่โชว์ผลงาน แต่กระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ เป็นคนละส่วนกัน
ตนสอบถามว่า เสธฯหิ นายหิมาลัยฯ ผอ.พรรครวมไทยสร้างชาติ สับสนในผลงานของนายพีระพันธุ์ฯ กับการกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 เป็นคนละส่วนกัน
มาตรา 187 บัญญัติไว้โดยชัดแจ้งว่า รัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทหรือคงไว้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทไปตามจำนวนที่กฎหมายบัญญัติและต้องไม่เป็นลูกจ้างของบุคคลใด
ในขณะที่นายพีระพันธุ์ฯดำรงตำแหน่งในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน งบการเงินระบุชัดแจ้งว่า ซื้อทรัพย์สินเพิ่ม 21 ล้านเศษและกู้ยืมเงิน 14 ล้านบาท ในขณะเป็นรัฐมนตรีและเป็นกรรมการบริษัท บริษัทรพีโสภาค จำกัด ในเมื่อรัฐธรรมนูญมาตรา 187 วรรคสาม ห้ามไปยุ่งเกี่ยวการบริหารงานของบริษัท โดยสับขาหลอกว่าได้ทำสัญญาโอนหุ้นให้แก่นิติบุคคล
แต่ตรวจสอบยังถือครองหุ้นและเป็นกรรมการบริษัท ที่มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท
ถามว่า ใครจะไปบังอาจ กลั่นแกล้ง นายพีระพันธุ์ฯ นักกฎหมายคนเก่ง
ส่วนในรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากกรรมการ 2 บริษัทในภายหลัง และยังถือหุ้นอยู่
ถาม เสธฯหิ ระบุในโพสต์ว่า มีบุคคลใดกลั่นแกล้ง ในเมื่อพี่น้องประชาชนจับได้คาหนังคาเขา ต้องถามว่า เหตุใดไม่โอนหุ้น แถมมีการลงบัญชีหุ้น ภายหลังนางโสภาพรรณ สาลีรัฐวิภาค ถึงแก่ความตาย แต่กลับไม่จดแจ้งถอนชื่อนางโสภาพรรณ ฯ จากกรรมการบริษัท รพีโสภาค จำกัด ให้พี่น้องประชาชนไปตรวจสอบจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นเอกสารมหาชน ไม่ใช่ความลับทางราชการ
ถามว่า เป็นการกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 หรือไม่ อย่างไร
ทั้ง การแจกถุงยังชีพ เงินหลวง แต่ปิดฉลากหรือติดสติกเกอร์ในชื่อนายพีระพันธุ์ ฯ สร้างความนิยมเฉพาะให้ตนเอง เป็นนักรบพลังงาน ที่ฉวยโอกาสที่ประชาชนตกทุกข์ได้ยาก ใช่หรือไม่ ประชาชนต้องการความช่วยเหลือมิใช่หรือ?
ประชาชนทางบ้านฝากถามว่า เป็น “นักบุญ ทุนหลวง” ใช่หรือไม่ อย่างไร ที่มีการนำเสนอข่าวเผยแพร่ กรณีคณะอนุ ปปช.จะแจ้งข้อกล่าวหาเร็วๆนี้ เป็นการกระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเพราะมีผลประโยชน์ขัดกัน ในข้อ 7 แห่ง ข้อกำหนดจริยธรรม ฯ 2561 จะสร้างความนิยมในตนเอง ควรลงทุนด้วยเงินส่วนตัว มิใช่ เงินหลวง ใช่หรือไม่??
ที่ตนออกมาพูดเพื่อกระตุกจิตใต้สำนึกนักการเมือง ไม่ได้รู้จักทั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นายสนธิญา สวัสดี หรือเสธฯหิ หิมาลัย ผิวพรรณ ผอ.พรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ให้ความรู้กฎหมายมหาชน อันเป็นประโยชน์สาธารณะ นักรบพลังงาน นายพีระพันธุ์ฯ รมว.พลังงาน ทำตามอำนาจหน้าที่ แม้จะโชว์ผลงาน แต่บุคคลอื่น หากนั่งในตำแหน่งนี้ อาจทำให้ราคาพลังงานในท้องตลาดถูกลงก็ได้ ไม่ควรออกมาทวงบุญคุณกับประชาชนว่า ได้ใช้พลังงานในราคาต่ำลง ซึ่ง แยกเป็นคนละส่วนกับการดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทและซุกหุ้น อันเป็นการกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตนมองว่า เป็นระเบิดเวลา แม้จะหวงเก้าอี้ แต่กระทบต่อรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโดยตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น
#รัฐธรรมนูญ #ซุกหุ้น #นักบุญทุนหลวง #ผลประโยชน์ทับซ้อน #กระทรวงพลังงาน #เป็นกรรมการบริษัท