นักลงทุนระดับโลก-นักกฎหมาย-ผู้เชี่ยวชาญ จับเข่า เสวนา ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ เห็นพ้องสร้างเงินแน่ แต่ต้องอธิบายให้ปชช.ให้เข้าใจแก่นแท้

Mummai Media

นักลงทุนระดับโลก-นักกฎหมาย-ผู้เชี่ยวชาญ จับเข่า เสวนา ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ ของไทย อดีตผู้บริหารมารีน่าเบย์ ลั่น ไทยต้ององค์ประกอบใหม่ดึงเงินภาคท่องเที่ยว ทุกฝ่ายเห็นพ้อง EC สร้างเงินแน่ แต่ต้องอธิบายให้ปชช.ให้เข้าใจแก่นแท้ ย้ำ ‘คาสิโน’ สัดส่วนน้อย-กม.คุมเข้ม

นักลงทุนระดับโลก-นักกฎหมาย-ผู้เชี่ยวชาญ จับเข่า เสวนา ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ เห็นพ้องสร้างเงินแน่ แต่ต้องอธิบายให้ปชช.ให้เข้าใจแก่นแท้

วันที่ 5 มิ.ย. ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอทท์ เอราวัน กรุงเทพฯ มีการจัดเสวนาโต๊ะกลมว่าด้วยเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรของไทย (TECR) ซึ่งเป็นเวทีสำคัญที่รวมผู้เกี่ยวข้องในประเด็นดังกล่าว ทั้งนักวิชาการ นักกฎหมาย และผู้บริหารโดยตรงจากอุตสาหกรรม Entertainment Complex มาร่วมพูดคุยและให้ข้อมูลเกี่ยวกับร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การทำคาสิโนถูกกฎหมายภายภายใต้ศูนย์รวมความบันเทิงขนาดใหญ่

นักลงทุนระดับโลก-นักกฎหมาย-ผู้เชี่ยวชาญ จับเข่า เสวนา ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ เห็นพ้องสร้างเงินแน่ แต่ต้องอธิบายให้ปชช.ให้เข้าใจแก่นแท้

นักลงทุนระดับโลก-นักกฎหมาย-ผู้เชี่ยวชาญ จับเข่า เสวนา ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ เห็นพ้องสร้างเงินแน่ แต่ต้องอธิบายให้ปชช.ให้เข้าใจแก่นแท้

โดยการเสวนาครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายได้แลกเปลี่ยนมุมมอง ความเห็น ตลอดจนให้ผู้ที่มีความเห็นต่างกันมาพบกัน เพื่อหาจุดร่วมในประเด็นที่ยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งจากการพูดคุยมีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเข้าร่วมให้ข้อมูลและมุมมองที่หลากหลาย อาทิ นายจอร์จ ธนาสวิช อดีตประธานและซีอีโอของ Marina Bay Sands และอดีตกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาระดับโลกของ Las Vegas Sands ได้ปาฐกถาถึงโอกาสของประเทศไทยในการพัฒนารีสอร์ตครบวงจร (Integrated Resort) โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการ รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ โดยนายจอร์จได้กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศของคุณ การตัดสินใจเป็นของคุณเอง และหวังว่าการตัดสินใจใด ๆ จะอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและความเข้าใจที่สมบูรณ์ ไม่ใช่อารมณ์หรือความกลัวที่เกิดจากความเข้าใจผิด“

นักลงทุนระดับโลก-นักกฎหมาย-ผู้เชี่ยวชาญ จับเข่า เสวนา ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ เห็นพ้องสร้างเงินแน่ แต่ต้องอธิบายให้ปชช.ให้เข้าใจแก่นแท้

ขณะที่ นาย เลา ก๊ก เกิง หัวหน้าฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญา กีฬา และเกม Rajah & Tann Singapore ได้บอกเล่าถึงประวัติของประเทศสิงคโปร์ที่เคยถูกต่อต้านจากผู้นำและประชาชนก่อนที่จะมีการตัดสินใจแก้กฎหมายเรื่องการเล่นพนันอย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมกฎหมายรองรับที่เข้มงวด เพื่อดูแลผลกระทบเชิงลบทุกข้อที่เกิดจากการเล่นพนันและการฟอกเงิน

จากนั้นในช่วงบ่าย ผู้ร่วมเสวนาทั้ง 8 ท่าน ซึ่งเป็นตัวแทนจากหลากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสถานบันเทิงครบวงจร ได้แก่ ผู้บริหารจากบริษัท Entertainment Complex ระดับโลก เช่น เควิน เคลย์ตัน (Galaxy Entertainment Group), เจฟฟรีย์ สจ๊วร์ต เดวิส (Melco Resorts & Entertainment Limited) และ คริสโตเฟอร์ เอ็ม กอร์ดอน (Wynn Resorts Development) รวมถึงบุคคลสำคัญจากภาคส่วนต่างๆ ในประเทศไทย อาทิ วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ (นักกฎหมายและที่ปรึกษากรรมาธิการ), พริษฐ์ วัชรสินธุ (โฆษก พรรคประชาชน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร) และ ดร.ณรงค์ชัย ใหญ่สว่าง (อาจารย์มหาวิทยาลัยและนักวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์) ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นถึงกรณีคาสิโน โดย อดีตซีอีโอ มารีน่า เบย์ แซนด์ส’ สนับสนุนให้ไทยเดินหน้า โครงการ Entertainment Complex เพิ่มรองรับนักท่องเที่ยวระดับไฮเอ็นด์ ย้ำสถานบันเทิงไม่ได้มีแค่กาสิโน

นักลงทุนระดับโลก-นักกฎหมาย-ผู้เชี่ยวชาญ จับเข่า เสวนา ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ เห็นพ้องสร้างเงินแน่ แต่ต้องอธิบายให้ปชช.ให้เข้าใจแก่นแท้

ขณะที่ นายจอร์จ ธนาสวิช อดีตประธานและ CEO ของ Marina Bay Sands และอดีตกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาระดับโลก Las Vegas Sands กล่าวตอนหนึ่งในงานเสวนาโต๊ะกลมว่า การพนันเป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ ของโครงการขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งสัดส่วนรายได้จากการพนันมีเพียง 20% แต่ทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนรายได้ ในขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ พร้อมกับยกตัวอย่างที่ Marina Bay Sands นักท่องเที่ยวจะได้รับความสะดวกสบายในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งคุณจะไม่เห็นแบบนี้ในประเทศไทย ทำให้คนอยากจะมาอยู่ที่นี่พักตลอด หากไทยอยากจะก้าวไปข้างหน้า และต้องให้ข้อมูลกับประชาชนว่า EC คืออะไรกันแน่ รัฐบาลจะต้องทำการบ้าน สื่อสารให้คนไทยเข้าใจถึงควาทหมายของ EC ที่แท้จริง และจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทยอย่างไร จะเพิ่มการท่องเที่ยวได้อย่างไร ที่นี่จะเป็นการลงทุนที่เป็นโอกาสสร้างความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง

การนำเรื่อง EC เข้ามาจะช่วยเสริมองค์ประกอบนักท่องเที่ยวที่เป็นระดับไฮเอนด์ ลักชัวรี่ที่ใช้จ่ายเฉลี่ยสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป เพราะองค์ประกอบหลักของ EC ประกอบด้วย ลักชัวรี่โฮเต็ล ร้านอาหารจำนวนมากทุกระดับห้างสรรพสินค้าหรูที่ไม่ใช่ห้างที่แย่งการค้าปลีกในประเทศ และมีคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ อาจจะมีข้อเข้าใจผิดเกี่ยวกับกาสิโน ซึ่งตรงนี้ทุกภาคส่วนต้องอธิบาย และย้ำให้ทุกคนรับรู้ตรงกันว่า ไม่ใช่การให้ใครก็ได้เข้ามาเล่น และรัฐบาลมีกฎระเบียบที่ดีที่สุด และเข้มแข็งที่สุดกำกับดูแล

“สิ่งที่ไทยเผชิญอยู่คือโอกาสของจุดแข็งของไทยในด้านการท่องเที่ยว ที่อยากกลับมาประเทศไทยอีก เพราะผมมาที่นี่เป็นร้อยครั้งก็มาเท่าไรก็ยังไม่พอ แต่ประเทศไทยต้องนำองค์ประกอบใหม่มาดึงนักท่องเที่ยวไฮเอนด์เข้ามาด้วย เช่นเดียวกับที่สิงคโปร์เคยลงทุน ผมหวังว่าไทยจะตัดสินใจในสิ่งดีๆ สำหรับคนไทย”

นักลงทุนระดับโลก-นักกฎหมาย-ผู้เชี่ยวชาญ จับเข่า เสวนา ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ เห็นพ้องสร้างเงินแน่ แต่ต้องอธิบายให้ปชช.ให้เข้าใจแก่นแท้

ด้าน นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมาย และที่ปรึกษากรรมาธิการการเงิน การคลังฯ สภาผู้แทนราษฎร และผู้ก่อตั้งสำนักกฎหมาย VLA กล่าวว่า Thailand Entertainment Complex (TECR) ของรัฐบาลที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระแรกในเดือน ก.ค.นี้ ไม่ใช่เรื่องที่ไทยมีประสบการณ์มาก่อน แต่ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ มีประสบการณ์มาแล้วจึงต้องมีการเรียนรู้จากเพื่อนบ้านและรับฟังความเห็นจากส่วนต่างๆมากที่สุด โดยกรอบกฎหมายที่พิจารณากันไม่ได้ใช้คำว่า “กาสิโน” แต่ใช้คำว่า “สถานบันเทิงครบวงจร” หรือ Entertainment Complex ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้ามาเปิดหรือมาลงทุนได้ เพราะเงื่อนไขที่วางไว้ค่อนข้างที่สูง จะต้องลงทุนเป็นมูลค่ามหาศาล และพื้นที่ที่เป็นกาสิโนตามหลักการก็คือไม่เกิน 10% ของพื้นที่ ส่วนอีก 90% ของพื้นที่จะทำอะไร จะสร้างสวนสนุก สวนน้ำ โรงละคร สนามกีฬา หรือว่าจะมีทัศนียภาพที่สวยงามเป็น Man-Made Destination แน่นอนว่า โครงการนี้มี 3 เป้าหมายหลัก คือ 1. การพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศ โดยเฉพาะจากนักลงทุนต่างชาติ 2. การพัฒนาการท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวของไทยก็ดังอยู่แล้ว แต่ถ้าเราอยู่เฉยๆ ไม่พัฒนาการท่องเที่ยวของเรา เพื่อนบ้านเขาก็พร้อมที่จะขึ้นมา และ 3. การจัดการปัญหาบ่อนใต้ดิน เพราะบ่อนใต้ดินที่มีอยู่มานมนาน มันเป็นระบบที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนเงินนอกระบบ และเงินนอกระบบนี้มันก็จะโยงกันหลายอย่าง การค้าประเวณี ยาเสพติด อิทธิพล สินบน เจ้าหน้าที่ของรัฐ

นายวีรพัฒน์ ย้ำว่า กระบวนการตอนนี้เรายังไม่ทันจะได้เข้าสู่วาระการพิจารณาร่างกฎหมายอย่างเป็นทางการสิ่งที่เรามีตอนนี้คือการพูดคุยในสังคม มีร่างการศึกษาของคณะกรรมาธิการในสภา ซึ่งก็เป็นแค่ร่างการศึกษา ยังไม่ได้เป็นการพิจารณาผ่านกฎหมาย ข้อกังวลใจใดๆ ที่ภาคสังคม ภาควิชาการมี คิดว่าสำคัญและต้องรับฟัง แล้วก็เอาข้อพิจารณาเหล่านี้มาใช้แก้ไข

“เชื่อว่าไม่ใช่การเปิดกาสิโนอย่างที่เข้าใจกัน แต่เป็นการสร้าง Entertainment Complex เพื่อดึงเม็ดเงินเข้าประเทศและแก้ปัญหาบ่อนใต้ดินที่มีมานานเรียนรู้จากประสบการณ์ประเทศเพื่อนบ้าน ผมกลับมองว่าเป็นข้อดีที่เรามาทีหลังเขา ในแง่ที่ว่าเราสามารถเรียนรู้ได้ว่าเขาประสบความสำเร็จตรงไหน เขาผิดพลาดอะไร และเราจะทำให้ดีกว่าเขายังไง”

นักลงทุนระดับโลก-นักกฎหมาย-ผู้เชี่ยวชาญ จับเข่า เสวนา ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ เห็นพ้องสร้างเงินแน่ แต่ต้องอธิบายให้ปชช.ให้เข้าใจแก่นแท้

เมื่อถูกถามเรื่องความกังวลว่าจะเป็นศูนย์รวมธุรกิจสีเทาและแหล่งฟอกเงิน นายวีรพัฒน์ ตอบว่า ธุรกิจสีเทา เงินนอกระบบมันมีมาอยู่แล้ว ยังไม่ต้องมีกาสิโน ไม่ต้องมี Entertainment Complex ก็มีเงินนอกระบบ แต่ถ้าเราไม่ดึงเม็ดเงินกลับเข้ามาสู่ระบบ เราจะแก้ยังไง ถ้าเราบอกว่าเราก็จะไปตามจับเรื่อยๆ แล้วเราตามจับมากี่ปีแล้ว และ จากประสบการณ์ที่อยู่ประเทศอังกฤษมาเกือบ 10 ปี สังเกตว่า กาสิโนมันเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด แต่ก็เห็นผู้คนเขาก็ตื่นเช้าทำงาน ขึ้นรถเมล์ไปทำงานกัน ไม่เห็นมีใครต้องวิ่งเข้ากาสิโนกันทั้งวัน ส่วนใหญ่ถ้าเข้าไปก็จะเจอแต่นักท่องเที่ยวเป็นหลัก

สำหรับ นายจอร์จ ชอย หัวหน้างานวิจัยเกมระดับโลก Citi Research กล่าวว่า จากรายงานการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment – FDI) ประเมินว่า โครงการ Integrated Resort (IR) หรือศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจรในประเทศไทย ควรมี 5 แห่งในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพ เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนกว่า 1.88 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6 แสนกว่าล้านบาท

“แม้ว่าร่างกฎหมายของไทยจะคาดการณ์เม็ดเงินเข้ามาลงทุนไว้ประมาณ 1 แสนล้านบาท แต่เราประเมินว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนสูงกว่านั้น โดยคาดว่าทำเลทองอย่างกรุงเทพ อาจจะเห็นเม็ดเงินเข้ามาลงทุนกว่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.95 แสนล้านบาท ส่วนภูเก็ต และเชียงใหม่ อาจเห็นการเข้ามาลงทุนกว่า 1,400 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท”

นักลงทุนระดับโลก-นักกฎหมาย-ผู้เชี่ยวชาญ จับเข่า เสวนา ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ เห็นพ้องสร้างเงินแน่ แต่ต้องอธิบายให้ปชช.ให้เข้าใจแก่นแท้

ขณะเดียวกัน หากเปรียบเทียบกับการลงทุนประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เช่น มาเก๊า เม็ดเงินลงทุนในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มากกว่า 5.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ, สิงคโปร์ มากกว่า 2.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ, ญี่ปุ่น ประมาณ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ, และฟิลิปปินส์ เกือบ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติยินดีลงทุนหากเห็นศักยภาพในการเติบโต นอกจากนี้ ได้ประเมินว่า หากมี Entertainment Complex ในประเทศไทย ภาษีจากการเล่นเกมจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่สำหรับรัฐบาล ซึ่งจะช่วยขยายฐานภาษี ส่งผลดีต่อมุมมองการคลัง โดยตามกฎหมายกำหนดรายได้ภาษีไว้ที่ 17% ของรายได้รวม ซึ่งประมาณการว่ารัฐจะมีรายได้ประมาณ 1.55 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี หรือประมาณ 5 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับรายได้ภาษีสรรพสามิตจากสุราที่เก็บได้ในปีงบประมาณ 2566-2567 และยังจะสร้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยงานเหล่านี้มีตั้งแต่ระดับล่าง และระดับความชำนาญ ซึ่งประเมินว่าหากไทยมี Entertainment Complex 5 แห่ง จะมีการจ้างงานใหม่ประมาณ 35,000 – 50,000 ตำแหน่ง โดยมีตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับทักษะสูง และงานทางอ้อมจะถูกสร้างขึ้นจากความต้องการแรงงานก่อสร้าง ซัพพลายเออร์ การตลาด และผู้จัดงาน เป็นต้น

นักลงทุนระดับโลก-นักกฎหมาย-ผู้เชี่ยวชาญ จับเข่า เสวนา ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ เห็นพ้องสร้างเงินแน่ แต่ต้องอธิบายให้ปชช.ให้เข้าใจแก่นแท้

นักลงทุนระดับโลก-นักกฎหมาย-ผู้เชี่ยวชาญ จับเข่า เสวนา ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ เห็นพ้องสร้างเงินแน่ แต่ต้องอธิบายให้ปชช.ให้เข้าใจแก่นแท้