“สว.ชีวะภาพ ชีวะธรรม” ปธ.กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลุกความรักชาติ ปลุกกระแสความห่วงใยทรัพยากรป่าไม้มีค่าตามแนวขอบชายแดนไทย และกัมพูชา จากขบวนการลักลอบทำไม้มีค่าหายาก 10 ปีที่ผ่านมาจับกุมผู้ต้องหาชาวกัมพูชานับหมื่นคนความเสียหายมหาศาล
วันที่ 19 มิ.ย.68 นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา พร้อมด้วยนายจำลอง อนันตสุข เลขานุการคณะฯ , นายชาญชัย ไชยพิศ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดบุรีรัมย์ นำคณะลงพื้นที่ไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา อําเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามปัญหาการบุกรุก ทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยมีนายทวีศักดิ์ ทรงอยู่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายวิเชียร ชินวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์
นายชีวะภาพ เปิดเผยข้อมูลว่า “ การเดินทางมาครั้งนี้ ของสมาชิกวุฒิสภา เพื่อเป็นการติดตามสถานะการณ์การบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในเขตแดนไทย และกัมพูชา ซึ่งมีข้อมูลชัดเจนโดยเฉพาะการลักลอบทำไม้มีค่าหายากของไทยเช่น ไม้พะยูง,ไม้ชิงชัน ,ไม้ประดู่ ซึ่งเป็นไม่มีค่าหายากมีราคาแพงในท้องตลาด และกฎหมายของไทยกำหนดให้เป็นไม้หวงห้าม ข้อมูลของหน่วยงานชี้ชัดว่า สถิติคดีการลักลอบทำไม้มีค่าในพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชา มีสถิติสูงตั้งแต่ช่วงปี 2557 เป็นต้นมา
ขณะที่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ,เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ,ของ3จังหวัดอุบลราชธานี ,จังหวัดสุรินทร์ ,จังหวัดศรีสะเกษ 6 พื้นที่ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย,อุทยานแห่งชาติๆเขาพระวิหาร ,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม ,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรักษ์ ,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน -ห้วยสำราญ มีกลุ่มขบวนการจากประเทศกัมพูชา เข้ามาลักลอบทำไม้พะยูงไม่ต่ำกว่า 5 พันคนที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ยกตัวอย่างแค่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา แห่งเดียวมีผู้ต้องหาในคดีลักลอบทำไม้มีค่าในรอบ 10 ปีที่ผ่ามาที่เป็นชาวกัมพูชาถึง 1,230 คน ที่ทางการไทยติดตามจับกุมส่งดำเนินคดีได้ สร้างความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้จำนวนมากโดยเฉพาะไม้พะยูง
ข้อมูลยังพบว่ากลุ่มขบวนการได้ลักลอบเข้าไปทำไม้พะยูงเข้าไปถึงเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน,อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ,อุทยานแห่งชาติปางสีดา ที่อยู่ลึกจากแนวเขตชายแดนเข้าไปมีจำนวนผู้ต้องหาที่สามารถจับกุมได้อีกไม่ต่ำกว่า 1 พันคนซึ่งภาพรวมแล้วทั้งประเทศในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาทางการไทยดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาชาวกัมพูชาได้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคนสร้างความเสียหายต่อไม้มีค่าหายากโดยเฉพาะไม้พะยูง ไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ จำนวนมหาศาล และนักโทษเหล่านี้เป็นปัญหาสร้างภาระที่ต้องสูญเสียงบประมาณ กำลังพลในการป้องกันปราบปรามจำนวนมาก รวมถึงเป็นภาระต่อขบวนการบังคับใช้กฎหมาย การกุมขังนักโทษจำนวนมหาศาล
อีกประเด็นที่ทางกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ความสนใจและติดตามผลักดันคือสภาพปัญหาที่ ทราบข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงว่ามีความต้องการที่ต้องการปรับปรุงเพิ่มศักยภาพของถนนทางตรวจการเพื่อเพิ่มความมั่นคงของการป้องกันประเทศซึ่งกำลังมีสถานการณ์ในขณะนี้ แต่เนื่องจากพื้นที่ ที่ฝ่ายความมั่นคงต้องการพัฒนาศักยภาพของเส้นทางเพื่อให้เอื้ออำนวยประโยชน์สูงสุดต่อแผนงานป้องกันพื้นที่ประเทศอยู่ในเขตตามกฎหมายหลายฉบับ ที่กำหนดไว้ ทางกรรมมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีประเด็นข้อเสนอเห็นชอบ สนับสนุนต่อแผนงานดังกล่าว โดยให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนโดยใช้อำนาจทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติๆที่สามารถให้อำนาจหัวหน้าส่วนราชการดำเนินการได้ตามเหตุผลความจำเป็น ในทางปฎิบัติเมื่อมีถนนทางตรวจการก็จะเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อการออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดตามกฎหมายของแต่ละพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และทางกรมอุทยานแห่งชาติ และกรมป่าไม้ ก็เห็นชอบต่อแผนงานดังกล่าว
โดยทางกรรมาธิการๆมีข้อเสนอให้ภาครัฐเร่งดำเนินการจัดจัดทำแผนงานดังกล่าว โดยจัดงบประมาณที่พอเพียงสำหรับหน่วยงานกรมอุทยานแห่งชาติ และฝ่ายความมั่นคง นอกจากงบประมาณสำหรับการพัฒนาเส้นทางตรวจการส่งกลับบำรุงเพื่อความมั่นคง เพื่อการออกตรวจปราบปรามดูแลทรัพยากรธรรมชาติแล้วควรเพิ่มเติมงบประมาณสำหรับหน่วยงานเพื่อเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกในลักษณะหน่วยพิทักษ์ ฐานปฎิบัติการ กำลังพล ยานพาหนะ ยุทธโทปกรณ์ที่เกี่ยวข้องต่อการปฎิการ เทคโนโลยีด้านต่างๆ รวมถึงสาธาณูปโภคที่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเร่งด่วน
“วันนี้พวกเราคนไทยต้องปลุกความรักชาติ รักแผ่นดิน รักหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ของพวกเราขึ้นมา ร่วมกันส่งกำลังแรงใจให้ผู้ปฎิบัติหน้าที่ทางด้านความมั่นคงป้องกันประเทศ และเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลทรัพยากรธรรมชาติให้ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความราบรื่น สัมฤทธิ์ผล และมีความปลอดภัยในชีวิตตลอดไป“
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายชีวะภาพ ได้นำคณะไปยังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานีเพื่อเข้าร่วมรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับประเด็นปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ในเขตรอยต่อชายแดนไทยและกัมพูชาในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี, จังหวัดศรีสะเกษ ,จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดบุรีรัมย์ ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ,กรมป่าไม้ และประเด็นปัญหาความต้องการใช้พื้นที่เพื่อสร้างเส้นทางส่งกำลังบำรุง และเพื่อตรวจการเพื่อความมั่นคงของขอบชายแดนไทย และกัมพูชาของกองทัพภาคที่ 2 ตามแนวพื้นที่ตะเข็บชายแดน โดยมีว่าที่ร้อยตรีกรกฎ ประเสริฐวงษ์ รองผู้ว่าราชการอุบลราชธานี ,นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 และผู้แทนของแม่ทัพภาคที่ 2 ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์