วิกฤตโลกร้อนคือโอกาส! ‘ชีวะภาพ’ เผยหนทางฟื้นฟูด้วย ‘สีเขียว’ และ ‘ใจสีขาว’ ชวนคนไทยร่วมบริจาคคาร์บอนเครดิต สร้างมิติใหม่แห่งการทำบุญ!
วันที่ 4 ก.ย.68 นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่อง ประเทศไทยพร้อมแค่ไหนกับร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจัดโดยสำนักวิชาการสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาร่วมกับคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม พร้อมเชิญเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรนอร์เวย์ประจำประเทศไทย,หัวหน้าโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทย , และผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ร่วมอภิปรายในเวทีสัมมนา
นายชีวะภาพกล่าวว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศถือเป็นความท้าทายระดับโลกที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทุกภาคส่วนของสังคม ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง พายุรุนแรง รวมถึงผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารและการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต ประเทศไทยเองก็ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ และในฐานะสมาชิกของประชาคมโลก เรามีพันธกรณีสำคัญในการรับมือกับปัญหานี้ตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ดังนั้น การมีกฎหมายที่เหมาะสมเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติตามพันธกรณีดังกล่าวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
อีกทั้งการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ก็มีสำคัญมาก เนื่องปัจจุบันนี้ประเทศไทยยังไม่มีระบบกักเก็บคาร์บอนฯ ที่เรียกว่า Carbon Capture ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ประเทศอย่างนอร์เวย์ใช้ในการดึงคาร์บอนส่วนเกินในอากาศมาเก็บไว้ แต่สิ่งที่ไทยทำได้ตอนนี้คือ “สีเขียว” หรือ “ต้นไม้” เท่านั้น ซึ่งมีข้อมูลที่น่าตกใจว่า ปีนี้ไทยสูญเสียพื้นที่ป่าไปกว่า 30,000 ไร่ แม้จะมีกฎหมาย แต่ถ้าขาด “สามัญสำนึก” ทุกอย่างก็ไร้ความหมาย
นายชีวะภาพยังได้หยิบยกหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าที่สอนให้เใช้ชีวิตแบบ “สายกลาง” และ “สมถะ” กินให้น้อยลง ใช้ชีวิตให้ประหยัดมัธยัสถ์ พร้อมเปรียบเปรยว่า พระองค์อาจจะ “ล่วงรู้มาก่อน” ว่าในอนาคตจะเกิดภาวะโลกร้อน จึงสอนให้คนใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
นอกจากนี้คณะกรรมาธิการฯ จะจัดให้มีการ “สมทบทุนบริจาคซื้อคาร์บอนเครดิต” ที่คล้ายกับการตั้งกองผ้าป่าและทอดกฐิน เพื่อทำบุญ แต่จะเป็นการทำบุญเพื่อชดเชยการปล่อยคาร์บอนฯ จากการที่สว.ต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน, นั่งรถยนต์ หรือการกินอาหารหลายมื้อ แม้จะเป็นเงินไม่กี่พันบาทต่อปี แต่นี่คือ “จุดเริ่มต้น” ของการร่วมรับผิดชอบ
นายชีวะภาพ ยืนยันว่า “กฎหมายเหล่านี้ใช้ได้เป็นแค่บังคับเท่านั้น แต่ถ้าเรามีสำนึกอยู่ในใจก็เชื่อว่าจะสามารถช่วยกันลดและแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้” เป็นการตอกย้ำว่าการแก้ปัญหาโลกร้อนไม่ใช่แค่หน้าที่ของรัฐ แต่เป็น “หน้าที่ของคนไทยทุกคน” ที่ต้องร่วมมือกัน