ครม. เทงบ 22,780 ล้านบาทเติมเงินคนถือบัตรสวัสดิการ 13.4 ล้านคน นายกฯ สั่งการทำข้อเสนอช่วยประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำ ทบทวนหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

Mummai Media

ครม. เทงบ 22,780 ล้านบาทเติมเงินคนถือบัตรสวัสดิการ 13.4 ล้านคน นายกฯ สั่งการทำข้อเสนอช่วยประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำ ทบทวนหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

วันนี้ (30 กันยายน 2568) เวลา 18.40 น. ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ CB 406 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตร (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบโครงการเพิ่มวงเงินสวัสดิการให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งปี 2568 ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม กระทรวงการคลัง เสนอ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาค่าครองชีพ และจัดประชารัฐสวัสดิการเพิ่มเติมเป็นการชั่วคราวให้แก่ผู้มีบัตรฯ 13.4 ล้านคน โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 22,780 ล้านบาท

ครม. เทงบ 22,780 ล้านบาทเติมเงินคนถือบัตรสวัสดิการ 13.4 ล้านคน นายกฯ สั่งการทำข้อเสนอช่วยประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำ ทบทวนหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

โดย หลักเกณฑ์ จะเพิ่มเงินจากที่ได้รับจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน อีก 850 บาท โดยจ่าย 2 ครั้ง เป็นเวลา 2 เดือน (รวมจะได้คนละ 1,700 บาท) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2568 ซึ่งแต่ละเดือนจะมีเงินเข้า 1,150 บาท ที่สามารถใช้ได้ทันทีผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมในเดือนถัดไป) เพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่นๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่

ครม. เทงบ 22,780 ล้านบาทเติมเงินคนถือบัตรสวัสดิการ 13.4 ล้านคน นายกฯ สั่งการทำข้อเสนอช่วยประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำ ทบทวนหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

สำหรับประชาชนที่เสียภาษี รองนายกฯรัฐมนตรี และ รมว.คลัง จะนำเสนอรายละเอียดนำเข้า ครม.พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ยืนยันว่ามีเงินเพียงพอดำเนินโครงการอย่างครบถ้วน โดยจะดำเนินการผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่

ครม. เทงบ 22,780 ล้านบาทเติมเงินคนถือบัตรสวัสดิการ 13.4 ล้านคน นายกฯ สั่งการทำข้อเสนอช่วยประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำ ทบทวนหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ดังนี้

(1) เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เสนอค่าดำรงชีพเบื้องต้นแก่ครอบครัวผู้ประสบภัย เป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ สามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ มีความเป็นเอกภาพ ไม่ซ้ำซ้อน และครอบคลุมทุกมิติ และขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ส่งเรื่องเกี่ยวกับมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาไปที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศชภ.) เพื่อพิจารณาในภาพรวม ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป

ครม. เทงบ 22,780 ล้านบาทเติมเงินคนถือบัตรสวัสดิการ 13.4 ล้านคน นายกฯ สั่งการทำข้อเสนอช่วยประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำ ทบทวนหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

นายกรัฐมนตรีได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.) และจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ  (ศชภ. ) แล้ว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้มอบหมายให้ ศชภ. จัดทำข้อเสนอมาตรการช่วยเหลือประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำเป็นการประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการลงพื้นที่พบว่า มีพื้นที่ที่เป็นพื้นที่รับน้ำ ทำให้ประชาชนในพื้นที่นี้ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำทุกปี รัฐบาลต้องให้การดูแล ช่วยเหลือ และเยียวยาเป็นการเฉพาะ โดยจัดให้มีมาตรการช่วยเหลือเป็นการประจำทุกปี ไม่ต้องมาตั้งเรื่องขอเป็นครั้งๆ ปีต่อปี

พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที

(2) นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย ทบทวนหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการจ่าย และวงเงินช่วยเหลือ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้อย่างครอบคลุม และมีประสิทธิภาพ โดยเร็ว เนื่องจากหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่าย รวมทั้งวงเงินช่วยเหลือดังกล่าว ยังมีข้อจำกัดบางประการ ส่งผลให้การจ่ายเงินช่วยเหลือ ยังไม่ครอบคลุมประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง

ครม. เทงบ 22,780 ล้านบาทเติมเงินคนถือบัตรสวัสดิการ 13.4 ล้านคน นายกฯ สั่งการทำข้อเสนอช่วยประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำ ทบทวนหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ครม. เทงบ 22,780 ล้านบาทเติมเงินคนถือบัตรสวัสดิการ 13.4 ล้านคน นายกฯ สั่งการทำข้อเสนอช่วยประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำ ทบทวนหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ครม. เทงบ 22,780 ล้านบาทเติมเงินคนถือบัตรสวัสดิการ 13.4 ล้านคน นายกฯ สั่งการทำข้อเสนอช่วยประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำ ทบทวนหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ครม. เทงบ 22,780 ล้านบาทเติมเงินคนถือบัตรสวัสดิการ 13.4 ล้านคน นายกฯ สั่งการทำข้อเสนอช่วยประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำ ทบทวนหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ครม. เทงบ 22,780 ล้านบาทเติมเงินคนถือบัตรสวัสดิการ 13.4 ล้านคน นายกฯ สั่งการทำข้อเสนอช่วยประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำ ทบทวนหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ครม. เทงบ 22,780 ล้านบาทเติมเงินคนถือบัตรสวัสดิการ 13.4 ล้านคน นายกฯ สั่งการทำข้อเสนอช่วยประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำ ทบทวนหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา