กรมการค้าภายใน รับลูกนายกฯ ลงพื้นที่คุมเข้มราคาชุดดำ–ป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน พร้อมเดินหน้ามาตรการลดค่าครองชีพ รองรับโครงการ “คนละครึ่ง” เริ่มพรุ่งนี้

Mummai Media

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน (DIT) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจติดตามร้านค้าปลีกจำหน่ายชุดและเสื้อผ้าดำย่านท่าน้ำนนท์ ว่า จากสถานการณ์ที่ประชาชนทั่วประเทศพร้อมใจร่วมถวายความอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ส่งผลให้ความต้องการจัดหาชุดดำและเสื้อผ้าโทนไว้ทุกข์เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในออกติดตามสถานการณ์ด้านราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือกักตุนสินค้า พร้อมกำชับให้ดูแลให้มีสินค้าเพียงพอและจำหน่ายในราคาที่เป็นธรรม

นายวิทยากร กล่าวว่า ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้มีการวางแผนจัดการ โดยได้มีการพูดคุยกับโรงงานผู้ผลิตรายใหญ่และเช็คสต๊อกกับห้างค้าส่งค้าปลีก ซึ่งผู้ผลิตรายใหญ่ช่วงแรกอาจจะมีความขลุกขลักเล็กน้อย เนื่องจากไม่ได้มีการเตรียมตัว แต่ตอนนี้สถานการณ์ของโรงงานผู้ผลิตมีความพร้อมแล้ว ในส่วนห้างโมเดิร์นเทรดใหญ่ซึ่งมีสต๊อกของสินค้าอยู่แล้วก็พร้อมจำหน่ายให้แก่พี่น้องประชาชนได้ทันที

กรมการค้าภายใน รับลูกนายกฯ ลงพื้นที่คุมเข้มราคาชุดดำ–ป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน พร้อมเดินหน้ามาตรการลดค่าครองชีพ รองรับโครงการ “คนละครึ่ง” เริ่มพรุ่งนี้

ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดมสายตรวจลงพื้นที่อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ได้ลงพื้นที่แหล่งค้าส่งขนาดใหญ่ ได้แก่ ประตูน้ำ โบ๊เบ๊ สำเพ็ง พาหุรัด มีการจำหน่ายในราคาปกติ และวันนี้ได้ลงพื้นที่ย่านท่าน้ำนนท์ จังหวัดนนทบุรี ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี นายสงกรานต์ เพ็ชรน้ำเขียว และเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เพื่อติดตามสถานการณ์การจำหน่ายชุดดำและผ้าสีดำ พบว่ามีการแข่งขันด้านราคาสูง สินค้ามีเพียงพอ ราคาโดยรวมยังอยู่ในระดับปกติ และผู้ประกอบการให้ความร่วมมือดีในการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน

“ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนจากประชาชนบางส่วน โดยกรณีแรกเกี่ยวกับราคาส่ง–ราคาปลีกที่แตกต่างตามจำนวนที่ซื้อ ซึ่งได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นไปตามปกติของระบบการค้า อีกกรณีเป็นเรื่องราคาของผ้าที่ซื้อจำนวนมากกับซื้อจำนวนน้อย ซึ่งราคาจะต่างกันตามคุณภาพและต้นทุน ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้ประกอบการต้องแสดงราคาจำหน่ายทุกประเภทให้โปร่งใสเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจได้อย่างเป็นธรรม” นายวิทยากรกล่าว

นอกจากนี้ ในช่องทางออนไลน์ กรมฯ ได้จัดชุดติดตามพิเศษ เนื่องจากมีการจำหน่ายสินค้าทั้งจากในประเทศและนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งราคามีความหลากหลายขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้า โดยกรมฯ จะกำกับดูแลไม่ให้มีการใช้คำโฆษณาหรือบอกราคาที่หลอกลวงผู้บริโภค

กรมการค้าภายใน รับลูกนายกฯ ลงพื้นที่คุมเข้มราคาชุดดำ–ป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน พร้อมเดินหน้ามาตรการลดค่าครองชีพ รองรับโครงการ “คนละครึ่ง” เริ่มพรุ่งนี้

ทั้งนี้กรมการค้าภายในใช้หลักกฎหมายอย่างเคร่งครัดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 หากผู้ประกอบการไม่ปิดป้ายแสดงราคาตามมาตรา 28 มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสูงเกินสมควรเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนซื้อสินค้าแล้วไม่ได้คุณภาพ ไม่ตรงปก หรือพบเห็นการเอาเปรียบด้านราคา สามารถแจ้งสายด่วน 1569 ของกรมการค้าภายในได้ทันที กรมฯ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน

กรมการค้าภายใน รับลูกนายกฯ ลงพื้นที่คุมเข้มราคาชุดดำ–ป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน พร้อมเดินหน้ามาตรการลดค่าครองชีพ รองรับโครงการ “คนละครึ่ง” เริ่มพรุ่งนี้

นายวิทยากร ยังกล่าวถึง ในส่วนของมาตรการลดค่าครองชีพ นั้น   กรมการค้าภายในได้เตรียมความพร้อมรองรับโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ซึ่งจะเริ่มวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค. 68) โดยที่กรมการค้าภายในได้เก็บข้อมูลราคาจำหน่ายสินค้า และขอความร่วมมือร้านจำหน่ายชุดดำทุกราย ให้งดปรับขึ้นราคาหลังเริ่มโครงการคนละครึ่ง และให้จำหน่ายในราคาที่เหมาะสมต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังได้มีแผนประสานร้านอาหารธงฟ้ากว่า 1,500 แห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้มีเมนูอาหารราคาประหยัดจำหน่ายแก่ประชาชน โดยกรมฯ จะจัดหาวัตถุดิบสำคัญ เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ และผักสด ไปสนับสนุนเพื่อช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการและให้สามารถจำหน่ายอาหารคุณภาพดีในราคาพิเศษ

ทั้งนี้ กรมการค้าภายในจะรายงานผลการติดตามสถานการณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้ามาตรการเชิงรุกทุกด้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่ารัฐบาลดูแลทุกมิติของค่าครองชีพอย่างแท้จริง และจะไม่ยอมให้มีการฉวยโอกาสทางการค้าในช่วงเวลาที่คนไทยกำลังร่วมแสดงความอาลัยของแผ่นดิน