ยุบสภาอย่างเป็นทางการ ราชกิจจาฯ ประกาศเดินหน้าเลือกตั้งใหม่

Mummai Media

ราชกิจจาฯ ประกาศยุบสภา เตรียมเดินหน้าเลือกตั้งใหม่ ไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน

ยุบสภาอย่างเป็นทางการ ราชกิจจาฯ ประกาศเดินหน้าเลือกตั้งใหม่

วันนี้ 12 ธันวาคม 68 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกายุบสภา พ.ศ.2568 ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ด้วยนายกรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลฯ สมควรยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป

ด้วยนายกรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลฯ ว่า ตามที่รัฐบาลได้เข้ารับหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2568 โดยเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งประกอบด้วยพรรคการเมืองหลายพรรคเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่มิได้มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรในระหว่างที่ประเทศได้เผชิญความท้าทายหลายประการเพราะความไม่แน่นอนรอบด้าน ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และภูมิรัฐศาสตร์ของโลก รวมทั้งสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา

รัฐบาลได้เร่งดำเนินการทุกวิถีทางในการบริหารราชการแผ่นดินให้สามารถแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศที่รุมเร้าให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยและ สันติสุขให้เกิดขึ้นกับชาติบ้านเมือง อันจะนำพาการเมืองการปกครองของประเทศให้ก้าวหน้าเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน อาทิ การผลักดันการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ การเร่งแก้ไขปัญหา
.
ผลกระทบจากสงครามการค้า การขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนและชุมชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ การช่วยเหลือเยียวยาความเดือนร้อนของประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ การป้องกันและปราบปรามบ่อนการพนัน การพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติภัยไซเบอร์ และการหลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่างๆ
.
การเร่งแก้ไขปัญหากรณีพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชาผ่านกลไกการเจรจาทางการทูตที่เหมาะสมควบคู่กับการป้องกันประเทศที่เข้มแข็งรวมทั้งกำหนดมาตรการในการดำเนินการเพื่อรองรับและลดผลกระทบในด้านต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชน
.
แต่การบริหารราชการแผ่นดินจำเป็นต้องมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม โดยที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่มีปัญหารุมเร้าในหลายๆ ด้าน ส่งผลให้รัฐบาลไม่อาจบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และมีเสถียรภาพหากปล่อยให้สภาวการณ์เป็นอยู่เช่นนี้ย่อมจะเกิดความไม่มั่นคงทางการเมืองและกระทบต่อความเชื่อมั่นของนานาประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
.
อันจะนำมาซึ่งความเสื่อมศรัทธาของประชาชนต่อระบบรัฐสภาและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในที่สุดทางออกที่เหมาะสมคือการยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป อันเป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนเจ้าของอำนาจสูงสุดโดยเร็ว
.
เพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากและมีเสถียรภาพที่ได้รับอาณัติที่ชอบธรรมจากประชาชนเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปโดยราบรื่นและเรียบร้อยสืบไป.
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 103 และมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า ‘พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๘’

มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
.
มาตรา 3 ให้ยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป
.
มาตรา 4 ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าวันแต่ไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

มาตรา 5 ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี

ยุบสภาอย่างเป็นทางการ ราชกิจจาฯ ประกาศเดินหน้าเลือกตั้งใหม่

ยุบสภาอย่างเป็นทางการ ราชกิจจาฯ ประกาศเดินหน้าเลือกตั้งใหม่