วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565) เวลา 17.00 น. ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ ดาโตะ ซรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคบ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ
โดยผู้นำไทยและมาเลเซียได้ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ต่อมา เวลา 17.15 น. ทั้งสองฝ่ายได้เข้าร่วมหารือกลุ่มเล็ก ณ ห้องโดมทอง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียลงนามสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึกที่ทั้งสองฝ่ายมอบให้แก่กัน ก่อนหารือข้อราชการเต็มคณะ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ผู้นำทั้งสองได้ร่วมกันหารือข้อราชการ โดยฝ่ายไทยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมด้วย ดังนี้
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และพลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำหรับคณะรัฐมนตรีฝ่ายมาเลเซีย ประกอบด้วย ดาโตะ ไซฟุดดิน อับดุลละฮ์ (Dato’ Saifuddin Abdullah) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดาโตะ ซรี โมฮัมหมัด อัซมิน บิน อาลี (Dato’ Seri Mohamed Azmin bin Ali) รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรม ดาตุก ซรี จาลาลุดดิน อาลิอาส (YB Datuk Seri Jalaluddin Alias) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงดินแดนสหพันธ์ ดาตุก ซรี ฮัญจี โมฮัมหมัด ซาลิม โมฮัมหมัด ชาริฟ (YB Datuk Seri Hj. Mohd Salim Mohd Sharif) ประธานองค์กรการพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยางรายย่อย ดาโตะ โนร นาซิมะฮ์ บินติ ฮาชิม (YBhg. Dato’ Nor Nazimah binti Hashim) เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และดาโตะ อัมรัน โมฮัมหมัด ซิน (Dato’ Amran Mohamed Zin) รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียและคณะ รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบปะหารือกัน โดยไทยและมาเลเซียเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด มีความร่วมมือกันในหลายด้าน การมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะทำให้ทั้งสองฝ่ายร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือไปพร้อมกัน และเดินหน้าควบคู่ไปกับอาเซียนอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ การหารือกลุ่มเล็กก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และกระชับความร่วมมือในทุกมิติ ซึ่งหลังจากนี้จะให้หน่วยงานของทั้งสองฝ่ายได้สานต่อความร่วมมือในรายละเอียดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า ยินดีอย่างยิ่งที่ได้เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ขอบคุณต่อการต้อนรับที่อบอุนตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทย การหารือในวันนี้ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายได้กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น ด้วยพื้นฐานที่ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและความร่วมมือที่แน่นแฟ้นมายาวนาน ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ความเป็นพี่น้องระหว่างสองประเทศ รวมถึงมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน หวังว่าความสัมพันธ์และความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายจะพัฒนามากยิ่งขึ้นในอนาคต
นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียต่างเห็นพ้องกันว่า ไทยและมาเลเซียมีแนวคิดที่คล้ายคลึงกันในการบริหารประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมแนวคิด “Malaysia Family” ของมาเลเซียที่ต้องการก้าวข้ามความแตกต่าง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายไทยที่ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ควบคู่กับการพัฒนาประเทศอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้หารือต่อยอดนโยบายเพื่อให้ความร่วมมือระหว่างกันส่งผลถึงความกินดีอยู่ดีของประชาชนไทยและมาเลเซีย
ด้านการฟื้นฟูความเชื่อมโยง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานและเส้นทางคมนาคมทั้งทางบก ทางเรือ และอากาศ ให้คืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้มากขึ้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประชาชนไทยรอที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและรอการเดินทางไปมาหาสู่กันมากขึ้น ไทยมีศักยภาพ ความพร้อม และได้เตรียมมาตรการการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยไว้แล้ว หวังว่าไทยและมาเลเซียจะเปิดการเดินทางระหว่างกันโดยไม่ต้องกักกันโรคในอนาคต ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยินดีหารือเพิ่มเติมในเรื่องการเปิดด่านตามแนวชายแดนเพื่อฟื้นฟูผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจตามแนวชายแดน รวมถึงเรื่องการเปิดการเดินทางระหว่างกันโดยไม่ต้องกักกันโรค ซึ่งมาเลเซียได้มีการนำมาใช้กับสิงคโปร์แล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้นำมาใช้กับไทยเช่นกัน
ด้านความร่วมมือสาธารณสุข นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณมาเลเซียที่ให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้คนไทยเดินทางกลับจากมาเลเซียในช่วงสถานการณ์โควิด-19 หวังว่าต่อไปทั้งสองจะร่วมแลกเปลี่ยนความร่วมมือในการจัดการสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงได้ร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนต่อต้านโรคโควิด-19 มากขึ้นในอนาคต ด้านมาเลเซียยินดีที่ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือการวิจัยและพัฒนาวัคซีนต่อต้านโรคโควิด-19 และทราบว่าไทยมีระบบหมอพร้อม ซึ่งมาเลเซียก็มีระบบรับรองเอกสารการฉีดวัคซีนแบบดิจิทัลที่คล้ายกัน หวังว่าทั้งสองประเทศจะได้หารือเพื่อยอมรับเอกสารการฉีดวัคซีนแบบดิจิทัลร่วมกัน
ด้านความมั่นคงชายแดนและสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญกับมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยเพื่อสันติสุข บนพื้นฐานของการไว้วางใจซึ่งกันและกัน ไทยหวังสานต่อความร่วมมือด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนกับมาเลเซีย การแก้ปัญหาลักลอบข้ามแดน และการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดนต่อไป ด้านผู้นำมาเลเซียยินดีสานต่อความร่วมมือทางด้านความมั่นคงทุกมิติ
นายกรัฐมนตรีมาเลเซียลงนามสมุดเยี่ยม ชมของที่ระลึก และการหารือข้อราชการระหว่างนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
นายกฯ แถลงข่าวร่วมนายกฯ มาเลเซีย พร้อมขับเคลื่อนความร่วมมือรอบด้าน ยึดประโยชน์ ปชช. ของทั้งสองประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถ้อยแถลงในการแถลงข่าวร่วมกับ ดาโตะ ซรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคบ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล โดยนายกฯ มาเลเซีย ถือเป็นผู้นำรัฐบาลต่างประเทศคนแรกที่เยือนประเทศไทย หลังสถานการณ์โรคโควิด-19 สะท้อนความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ
นายกฯ ชื่นชมความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของนายกฯ มาเลเซีย ในการขับเคลื่อนประเทศท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ พร้อมยืนยันความตั้งใจเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งแก่ประชาชนทั้งสองประเทศ บนพื้นฐานความไว้เนื้อเชื่อใจ เสมือน “ครอบครัวเดียวกัน”
ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นสำคัญร่วมกันใน 4 ประเด็น ดังนี้
1.การฟื้นฟูความเชื่อมโยงในทุกมิติ การเดินทางระหว่างประชาชนของสองประเทศ โดยเฉพาะการเดินทางของผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วโดยไม่ต้องกักกันโรค ทั้ง Vaccinated Travel Lane (VTL) ของมาเลเซีย และระบบ Test and Go ของไทย รวมถึงการเดินทางผ่านพรมแดนทางบกเพิ่มเติม
2.การกระตุ้นเศรษฐกิจและแสวงหาความร่วมมือสาขาใหม่ ๆ ซึ่งที่ผ่านมามีปริมาณการค้าชายแดนและผ่านแดนเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก โดยตั้งเป้ามูลค่าการค้าระหว่างกันที่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2568 รวมถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล และการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG
3.การพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้และความมั่นคงชายแดน โดยนายกฯ เชิญชวนให้มาเลเซียร่วมลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงอุตสาหกรรมยางพาราและฮาลาล พร้อมชี้แจงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งฝ่ายมาเลเซียสนับสนุนท่าทีของไทยในการแสวงหาทางออกด้วยสันติวิธี
4.การรื้อฟื้นกลไกหารือทวิภาคี ที่ครั้งนี้จะเป็นการปูทางสู่การแลกเปลี่ยนการเยือนและการประชุมหารือฯ ระหว่างกันต่อไป โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย – มาเลเซีย ครั้งที่ 14 ในเดือน มี.ค. นี้
นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เยี่ยมชมนิทรรศการศิลปหัตถกรรม ณ บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล