นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี ความหนักใจของคนไทย ณ วันนี้ โดยระบุว่า จากผลโพล พบว่า ประชาชน ณ วันนี้มีเงินไม่พอใช้และมีหนี้สิน หรือถึงมีพอใช้ก็ไม่มีเงินเหลือเก็บ ผนวกกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ลากยาวก็ยิ่งทำให้ลำบากมากขึ้น นอกจากจะหนักใจเรื่องของแพงแล้วยังหนักใจเรื่องการบริหารงานของรัฐบาลอีกด้วย ส่วนนี้สะท้อนให้เห็นว่าการแก้ปัญหาของรัฐบาลถึงจะมาถูกทางแต่ก็ยังไม่ถูกใจประชาชน รัฐบาลซึ่งเป็นความหวังของประชาชนจึงควรรับฟังและแก้ปัญหาให้เร็วยิ่งขึ้น
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนงค์นาถ ทนันชัย ประธานกรรมการบริหารหลักสูตรการจัดการบัณฑิต คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผย จากผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจอย่างมาก และต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง รวดเร็ว ในฐานะที่ตนเป็นทั้งอาจารย์ ผู้ประกอบการและประชาชนเห็นว่ารัฐบาลควรแก้ปัญหาให้ตรงจุด โดยเชิญผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่เข้าใจอย่างถ่องแท้เข้ามาช่วย
“ฟังเสียงประชาชนอย่างจริงใจ เข้าถึงแหล่งข้อมูลที่เป็นจริง ทางรัฐบาลนั้นเชื่อว่าขณะนี้ค่อนข้างทำงานหนักเพราะเจอสถานการณ์วิกฤติต่าง ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เรียกว่า ความวัวไม่ทันหาย ความวุ่นวายอย่างอื่นก็เข้ามาแทรกตลอดเวลา ข้อสังเกตจากผลโพลอีกประการหนึ่งในเรื่องวิธีรับมือปัญหาหนักใจ คือ การตั้งสติ ยอมรับ ปลง นั้น อาจารย์เห็นว่าไม่ควรท้อ อย่ามองว่าเป็นปัญหา ยิ่งเป็นผู้ประกอบการต้องไม่กลัว กล้าที่จะเผชิญกับปัญหาแล้วหาทางออกอย่างมีสติ ไม่ว่าจะฐานะใด ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนั้นดีที่สุด เพราะจะมองเห็นปัญหาก่อนเพื่อการแก้ไขที่รวดเร็วและตรงจุด”
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี ความหนักใจของคนไทย ณ วันนี้ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,047 คน สำรวจระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคม 2565 พบว่า เรื่องที่ประชาชนหนักใจมากที่สุด อันดับ 1 คือ ของแพง น้ำมันแพง ค่าครองชีพสูง ร้อยละ 89.73 โดยรู้สึกค่อนข้างหนักใจกับปัญหาต่าง ๆ ร้อยละ 56.73 และหนักใจมาก ร้อยละ 38.78 สาเหตุที่ทำให้หนักใจ คือ ทุกอย่างขึ้นราคา ร้อยละ 80.97 รองลงมาคือ การแก้ปัญหาของรัฐบาล ร้อยละ 57.10 ทั้งนี้ประชาชนรับมือกับปัญหาด้วยการตั้งสติ อดทน ให้กำลังใจตัวเอง ร้อยละ 76.14 โดยอยากให้รัฐบาลรับฟังความคิดเห็น ช่วยเหลือประชาชนให้มากขึ้น ร้อยละ 75.77 ในภาพรวมรายได้ของประชาชน ณ วันนี้ไม่พอใช้และมีหนี้สิน ร้อยละ 41.26