นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์FB หลังศาลฎีกานักการเมือง ยกฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และพวก ในคดีทุจริตโครงการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง งบประมาณ 5.8 พันล้านบาทคดีโรงพักโดยระบุว่า ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องคุณสุเทพ
เพราะเห็นว่า เป็นเพียงรองนายกฯ ผู้กำกับดูแลนโยบาย
ครม. อนุมัติโครงการนี้เพียงหลักการเฉพาะเรื่อง “เปลี่ยนรูปแบบการลงทุน”
ส่วนวิธีการจัดจ้าง เป็นเรื่องของหัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้ให้ความเห็นชอบ
อีกทั้ง คุณสุเทพมีหน้าที่เพียง “กำกับดูแลนโยบาย” โดยทั่วไป การเซ็นอนุมัติรวมสัญญาตามที่ สตช. เสนอมาก็ไม่ต้องผ่าน ครม.
สรุปยกฟ้อง ไม่ผิด ม.157
ส่วนจำเลยอื่นไม่ปรากฏว่าใช้อำนาจครอบงำสั่งการให้เสนอขอเปลี่ยนแปลงวิธีจัดจ้าง หรือมีวิธีการที่มิชอบอื่นๆ
เมื่อคำพิพากษามาเป็นแบบนี้ ก็ต้องยอมรับ
เพียงแต่ทำให้ผมหวนคิดถึง “คดีจำนำข้าว” ของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้ “กำกับดูแลนโยบาย” เช่นกัน
แค่คิดเปรียบเทียบเท่านั้น เพราะผมเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา ไม่ได้รู้เรื่องกฎหมายอะไรลึกซึ้ง
อย่าคิดว่าผมไปเข้าข้างใคร บาปกรรมตาย
ระหว่าง คดีโรงพัก กับ คดีจำนำข้าว
คดีหนึ่งไม่พบหลักฐานการทุจริต อีกคดีหนึ่งพบหลักฐานการทุจริต
แต่ก็เป็นเพียงผู้กำกับดูแลนโยบาย และไม่พบว่าใช้อำนาจครอบงำสั่งการให้มีการทุจริตเหมือนกัน
ผมหมายถึงระดับ นายกฯ และรองนายกฯ นะครับ
แม้ความเสียหายจะมีตัวเลขที่แตกต่างกัน
แต่จะเสียหายเงินหลวง บาทนึง หรือเป็นหมื่นล้าน
ผิดคือผิด ถูกคือถูก
ประชาชนอย่างผมก็คิดได้เท่านี้
มิน่าเล่า ผมถึงไม่รุ่งทางการเมืองเหมือนคนอื่นเขา